คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 166/2463

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าวัดเดือนปีใดไม่ปรากฎ จำเลยสมคบกันตั้งสมาคมเข้าอั้งยี่มีนามว่าฮั้วงี่ ที่ตำบลร่อนพิบูลย์ ขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๑๗๗ – ๑๗๙ ฯ
จำเลยทุกคนให้การปฏิเสธว่ามิได้กระทำผิดดังข้อหา ฯ
ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชพิจารณาคดีแล้ว ฟังคำพยานโจทย์ว่านายยองคุ้น นายจูเตียน นายเนียวกัง นายเปรมสมคบกันเข้าอั้งยี่โดยนายยองคุ้น นายจูเตียนเปนหัวน่าอั้งยี่ นายเนียวกังเปนพนักงานในสมาคมอั้งยี่ นายเปรมเปนพวกอั้งยี่ แต่จำเลยอีก ๓๐ คนนั้นหลักฐานยังไม่พอว่าเปนพวกอั้งยี่ จึงพิพากษาวางบทกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๑๗๗ ให้จำคุกนายยองคุ้น นายจูเตียนมีกำหนดคนละ ๓ ปีแลปรับคนละ ๑๐๐๐ บาท ให้จำคุกนายเนียวกังมีกำหนด ๓ ปี ให้จำคุกนายเปรมมีกำหนด ๒ ปี จำเลยนอกนี้ไม่มีความผิดให้ปล่อยตัวไป ๆ
จำเลยที่ต้องโทษอุทธรณ ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษเห็นว่าในฟ้องโจทย์ไม่ปรากฏว่าจำเลยกระทำความผิดเมื่อใด ทั้งพยานโจทย์ก็เปนพวกที่ถูกจับในเรื่องเดียวกับจำเลย แต่โจทย์ปล่อตัวไปให้มาเปนพยานในคดีเรื่องนี้ ตามคำพยานไม่ปรากฎว่าจำเลยได้ประชุมกันเพื่อกระทำผิดกฎหมายอย่างใด ยังไม่ควรฟังว่าจำเลยได้กระทำผิดดังข้อหา จึงพิพากษาเดิมให้ปล่อยตัวจำเลยไป ฯ
โจทย์ทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกาว่าควรฟังคำพยานโจทย์ว่าจำเลยสมคบกันเปนอั้งยี่ ฯ
กรรมการศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนเรื่องนี้ ได้ความว่าจำเลยเหล่านี้เปนคนทำเหมืองแร่บ้าง แลตั้งการค้าขายบ้าง ในตำบลร่อนพิบูลย์ เจ้าพนักงานสืบสวนได้ความว่า พวกจำเลยได้ประชุมกันที่เหมืองแร่แห่งหนึ่งในตำบลร่อนพิบูลย์ เจ้าพนักงานจึงได้จับตัวพวกที่ไปประชุม คนใดให้การรับว่าได้ไปประชุมเข้าอั้งยี่ เจ้าพนักงานก็ปล่อยคนนั้นไป แลอ้างคนนั้น ๆ มาเปนพยานในคดีเรื่องนี้ ตามคำพยานของโจทย์ที่สืบมาแล้วได้ความว่าพยานกับพวกจำเลยได้ประชุมแลสาบาลกันเข้าอั้งยี่ แต่พยานมิได้อธิบายว่าคำสาบาลนั้นมีเนื้อความว่าอย่างไร พยานบางคนว่าได้เข้าอั้งยี่กันโดยมีความประสงค์ว่าเมื่อมีธุระอะไรจะได้ช่วยซึ่งกันแลกัน พยานบางคนก็อธิบายไม่ได้ว่าการเข้าอั้งยี่มีความประสงค์อย่างไร เห็นเขาประชุมกันเข้าอั้งยี่ก็ไปเข้าอั้งยี่กับเข้าด้วย นอกจากนี้โจทย์นำหลักฐานมาเปนพยาน คือ หนังสือพิมพ์ตัวอักษรจีน ในหนังสือนี้แปลได้ความว่าเปนหนังสือประกาศในมณฑลฮกเกี๊ยนให้สมาชิกสาบาลตัวให้มีความซื่อตรงซึ่งกันแลกัน ให้อยู่ในความปกครองของบ้านเมืองจึงจะเปนศุข ถ้าผู้ใดไม่ซื่อตรงให้ยันดานเกิดเหตุร้ายต่าง ๆ กับหนังสืออีกฉบัพหนึ่งแปลได้ความว่าเปนหนังสือสำหรับตัวคนชื่อกังในมณฑลฮกเกี๊ยนซึ่งไม่ได้เกี่ยวเปนจำเลยในคดีนี้แลคนชื่อดังนี้จะมีตัวฤาไม่ก็ไม่ปรากฎว่าให้สมาชิกปฏิญาณตัวคิดจะเอาบ้านเมืองคืน แลกำจัดชาวแมนจู ถ้าสมาชิกไปอาศรัยอยู่ประเทศใดให้นับถือกฎหมายของประเทศนั้น แลมีบาลชีอีกเล่มหนึ่งเปนบาญชีรับเงินแลสิ่งของ ๆ ยี่ห้ออั้วงี่ ได้ความตามคำพยานหลักฐานของโจทย์ดังกล่าวมาแล้ว ศาลฎีกาเห็นว่าโจทย์สืบไม่สมว่าจำเลยได้ประชุมกันเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมายอย่างไร กลับได้ความตามในหนังสือ ๒ ฉบัพที่ออกในมณฑลฮกเกี้ยนว่า ถ้าสมาชิกจะอยู่ประเทศใดให้ถือกฎหมายของประเทศนั้น ฤาให้อยู่ในความปกครองของบ้านเมืองจึงจะเปนศุขดังนี้ ยังไม่พอจะชี้ขาดว่าจำเลยได้กระทำผิดฐานสมคบกันเปนอั้งยี่ตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๑๗๗ ได้ ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษพิพากษายกฟ้องโจทย์ปล่อยจำเลยไปนั้นชอบแล้ว ให้ยกฎีกาของโจทย์เสีย ฯ
วันที่ ๕ กรกฎาคม พระพุทธศักราช ๒๔๖๓

Share