แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
เมื่อคุณภาพและส่วนผสมของสบู่และเนยที่โจทก์ผลิตตามคำสั่งเฉพาะรายของลูกค้ากับที่โจทก์ผลิตและจำหน่ายเองเหมือนกัน สัมภาระหรือวัตถุที่นำมาใช้ในการผลิตตามคำสั่งเฉพาะรายดังกล่าวจึงมีความสำคัญยิ่งกว่าการงานกรณีเป็นการผลิตและขายให้ลูกค้าผู้สั่ง มิใช่การรับจ้างทำของ ดังนั้นโจทก์ต้องเสียภาษีการค้าในฐานะผู้ผลิต.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการประเมินภาษีการค้า อ้างว่าโจทก์ผลิตและจำหน่ายสบู่ เนยและแป้งหอมตามสูตรและส่วนผสมของโจทก์ให้ลูกค้าโดยตรง และรับจ้างผลิตสินค้าดังกล่าวให้ผู้ว่าจ้างด้วยโจทก์เสียภาษีการค้าในฐานะผู้รับจ้างทำของแล้ว แต่เจ้าพนักงานประเมินและคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์เป็นผู้ผลิตสำหรับการที่โจทก์รับจ้างผลิตสินค้าและมีรายรับจากการขายสินค้านั้น
จำเลยให้การว่าการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ชอบแล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนการประเมิน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่า โจทก์ผลิตสบู่หอมตราห่านฟ้า ตราหมี เนยตรานักรบและตราไก่จำหน่ายและผลิตสินค้าประเภทเดียวกันนี้ให้บริษัทอื่นที่ขายสินค้าดังกล่าวนำไปจำหน่ายด้วย ปัญหามีว่า การที่โจทก์ผลิตสินค้าให้บริษัทอื่นนำไปจำหน่ายนั้นโจทก์จะต้องเสียภาษีการค้าตามบัญชีอัตราภาษีการค้าประเภทการค้า 1. การขายของชนิด 1 (ก) ในฐานะผู้ผลิตอัตราร้อยละ 7 หรือประเภทการค้า 4. การรับจ้างทำของชนิด 1 (ฉ)ในฐานะผู้รับจ้าง อัตราร้อยละ 2 ในปัญหาดังกล่าว ศาลฎีกาเห็นว่าข้อแตกต่างระหว่างการขายของกับการรับจ้างทำของนั้นหาได้อยู่ที่ถ้อยคำหรือเจตนาและกิริยาที่คู่กรณีประพฤติต่อกันเป็นข้อสำคัญไม่แต่ข้อสำคัญที่จะต้องพิจารณาก็คือสัมภาระกับการงานที่รับทำจนสำเร็จนั้น สิ่งไหนจะสำคัญกว่ากัน ถ้าการงานสำคัญกว่าก็เป็นการรับจ้างทำของ แต่ถ้าสัมภาระสำคัญกว่าก็เป็นการขายของ ข้อเท็จจริงได้ความว่าโจทก์ผลิตและจำหน่ายสบู่ เนย ฯลฯ ตามสูตรและส่วนผสมของโจทก์ให้ลูกค้าโดยตรงและรับผลิตสินค้าดังกล่าวให้บริษัทอื่นตามที่บริษัทอื่นสั่งให้ผลิตด้วยคุณภาพของสินค้าที่โจทก์ผลิตให้บริษัทอื่นก็เหมือนกับสินค้าที่โจทก์ผลิตจำหน่ายเองและผลิตโดยใช้ส่วนผสมอย่างเดียวกันด้วย ดังนั้น สินค้าที่โจทก์ผลิตให้บริษัทอื่นจึงเหมือนกับสินค้าที่โจทก์ผลิตจำหน่ายเอง จึงเห็นได้ว่าสินค้าที่โจทก์ผลิตให้บริษัทอื่นนั้นสัมภาระหรือวัตถุที่นำมาใช้ในการผลิตมีความสำคัญยิ่งกว่าการงาน ดังนั้นการที่โจทก์ผลิตสินค้าดังกล่าวตามคำสั่งเฉพาะรายของบริษัทอื่น จึงหาใช่เป็นการรับจ้างทำของไม่ แต่เป็นการผลิตและการขายของให้บริษัทผู้ที่สั่งให้โจทก์ผลิตสินค้านั่นเองโจทก์จึงต้องเสียภาษีการค้าในประเภทการค้า 1. การขายของชนิด 1 (ก)ตามบัญชีอัตราภาษีการค้าในฐานะผู้ผลิตในอัตราร้อยละ 7”
พิพากษายืน