แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของเจ้าหนี้มีหนังสือทวงหนี้ให้ลูกหนี้ชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินภายในกำหนดเวลา 14 วัน นับแต่วันได้รับหนังสือ เป็นการดำเนินการทวงหนี้ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 119 เมื่อลูกหนี้มิได้ปฏิเสธหนี้ที่ทวงถามภายในกำหนดเวลา 14 วัน ต้องถือว่าลูกหนี้เป็นหนี้กองทรัพย์สินของเจ้าหนี้ตามจำนวนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของเจ้าหนี้มีหนังสือแจ้งไปเป็นการเด็ดขาด โดยถึงที่สุดเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2529 อันเป็นวันถัดจากวันครบกำหนดเวลาให้ปฏิเสธหนี้ ต้องถือเสมือนว่าลูกหนี้เป็นหนี้ตามคำพิพากษาเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2529 กรณีเช่นนี้ พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มิได้มีบทบัญญัติเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการบังคับคดีไว้โดยเฉพาะ ซึ่งมาตรา 153 กำหนดให้นำบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.พ. มาตรา 271 มาใช้บังคับโดยอนุโลม ดังนั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของเจ้าหนี้ชอบที่จะร้องขอบังคับคดีภายในกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2529 อันถือเสมือนว่าเป็นวันมีคำพิพากษา มิใช่นับแต่วันที่ศาลออกคำบังคับ
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย) เด็ดขาด และมีคำพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์พัฒนาเงินทุน จำกัด เจ้าหนี้ ยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินจากกองทรัพย์สินของลูกหนี้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นัดตรวจคำขอรับชำระหนี้ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๑๐๔ แล้ว ไม่มีผู้ใดโต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายนี้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีความเห็นว่า เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของเจ้าหนี้ได้อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๑๑๙ ทำหนังสือถึงลูกหนี้เมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๒๙ ทวงถามให้จัดการชำระเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงิน แต่ลูกหนี้ไม่ได้นำเงินมาชำระ หรือปฏิเสธเป็นหนังสือมายังเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของเจ้าหนี้ภายในกำหนด ๑๔ วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือโดยชอบ ซึ่งครบกำหนดเมื่อวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๒๙ ดังนั้นจำนวนหนี้ที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของเจ้าหนี้ทวงถามไปถือเป็นหนี้เด็ดขาด ซึ่งถือเสมือนว่าลูกหนี้เป็นหนี้ตามคำพิพากษา เจ้าหนี้ชอบที่จะร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาได้ภายในกำหนด ๑๐ ปี นับแต่วันมีคำพิพากษา ตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๒๗๑ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของเจ้าหนี้จึงชอบที่จะดำเนินการบังคับคดีภายในวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๓๙ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของเจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้เมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๓๙ จึงหมดสิทธิที่จะเรียกร้องเอาจากทรัพย์สินของลูกหนี้ ย่อมต้องห้ามมิให้ขอรับชำระหนี้ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๙๔ (๑) จึงเห็นควรยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๑๐๗ (๑)
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
เจ้าหนี้อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
เจ้าหนี้ฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของเจ้าหนี้มีหนังสือทวงหนี้ให้ลูกหนี้ชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินภายในกำหนดเวลา ๑๔ วัน นับแต่วันได้รับหนังสือ เป็นการดำเนินการทวงหนี้ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๑๑๙ เมื่อลูกหนี้ได้รับหนังสือทวงถามโดยชอบแล้วเมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๒๙ ลูกหนี้มิได้ปฏิเสธหนี้ที่ทวงถามภายในกำหนดเวลา ๑๔ วัน ต้องถือว่าลูกหนี้เป็นหนี้กองทรัพย์สินของเจ้าหนี้ตามจำนวนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของเจ้าหนี้มีหนังสือแจ้งไปเป็นการเด็ดขาดโดยถึงที่สุดเมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๒๙ อันเป็นวันถัดจากวันที่ครบกำหนดเวลาให้ปฏิเสธหนี้ ซึ่งต้องถือเสมือนว่าลูกหนี้เป็นหนี้ตามคำพิพากษาเมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๒๙ จากนั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของเจ้าหนี้มีอำนาจขอให้ศาลออกคำบังคับแก่ลูกหนี้ให้ปฏิบัติตามคำบังคับได้และถ้าลูกหนี้ไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของเจ้าหนี้ก็อาจมีคำขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีเสมือนหนึ่งว่าลูกหนี้นั้นเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา กรณีเช่นนี้ พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มิได้มีบทบัญญัติเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการบังคับคดีไว้โดยเฉพาะซึ่ง พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๑๕๓ กำหนดให้นำบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.พ. มาตรา ๒๗๑ มาใช้บังคับโดยอนุโลม ดังนั้น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของเจ้าหนี้ชอบที่จะร้องขอบังคับคดีภายในกำหนด ๑๐ ปี นับแต่วันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๒๙ อันถือเสมือนว่าเป็นวันมีคำพิพากษา มิใช่นับแต่วันที่ศาลออกคำบังคับดังที่เจ้าหนี้ฎีกา เพราะการออกคำบังคับเป็นเพียงขั้นตอนเริ่มต้นที่จะให้มีการดำเนินการบังคับคดีต่อไปเท่านั้น เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้เมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๓๙ ย่อมพ้นกำหนดเวลาการบังคับคดีแล้ว หนี้ที่พ้นกำหนดเวลาการบังคับคดีดังกล่าวไม่อาจนำมาขอรับชำระหนี้ได้
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.