คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์จำเลยเป็นทายาทโดยธรรมของเจ้ามรดกซึ่งตายมาประมาณ6 ปีแล้ว โจทก์เพิ่งฟ้องขอแบ่งมรดกฝ่ายจำเลยสู้ว่าฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ ฝ่ายโจทก์รับว่าจำเลยเป็นฝ่ายครอบครองทรัพย์มรดกอยู่แต่โจทก์อ้างว่าโจทก์ได้ครอบครองทรัพย์มรดกร่วมกับจำเลยเป็นหน้าที่ฝ่ายโจทก์จะต้องนำสืบว่าฝ่ายโจทก์ได้ครอบครองมรดกร่วมกับฝ่ายจำเลย หากโจทก์นำสืบไม่ได้ ก็ต้องถือว่าฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์และจำเลยเป็นลูกหลานของเจ้ามรดก เจ้ามรดกตายมาประมาณ 6 ปี มีทรัพย์เป็นมรดกรวม 11,500 บาท ตั้งแต่เจ้ามรดกตาย โจทก์กับจำเลยครอบครองทรัพย์มรดกร่วมกันมา ขอให้แบ่งมรดกให้โจทก์ตามส่วน

จำเลยให้การว่า เจ้ามรดกยกทรัพย์มรดกให้จำเลยแล้ว และจำเลยครอบครองเป็นของตนเองเรื่อยมา ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ

ศาลจังหวัดสกลนครเชื่อว่าทรัพย์มรดกยังไม่ได้ยกให้ใครโจทก์จำเลยปกครองร่วมกันมา จึงให้แบ่งให้โจทก์ตามฟ้อง

จำเลยที่ 2, 3 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 2, 3 ฎีกาว่าฟ้องของโจทก์ขาดอายุความมรดก

ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงได้ความว่านางลิมตายมาประมาณ 6 ปี โจทก์จึงฟ้องขอแบ่งมรดก ฝ่ายจำเลยต่อสู้ว่าฟ้องของโจทก์ขาดอายุความมรดก ฝ่ายโจทก์รับว่าจำเลยเป็นฝ่ายครอบครองทรัพย์มรดกอยู่ แต่โจทก์อ้างว่าโจทก์ได้ครอบครองทรัพย์มรดกร่วมกับจำเลย เช่นนี้ เป็นหน้าที่ฝ่ายโจทก์ต้องนำสืบว่าโจทก์ได้ครอบครองมรดกร่วมกับฝ่ายจำเลย เมื่อโจทก์นำสืบไม่ได้ ก็ต้องถือว่าฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

Share