แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
รัฐบาลประเทศแคนาดา ภายใต้แผนการโคลัมโบ ให้ทุนแก่ประเทศไทยตามความต้องการของกระทรวงศึกษาธิการ ผู้ได้รับทุนการศึกษาได้ทำสัญญาไว้กับกรมวิสามัญศึกษา (ต่อมาถูกยุบรวมกับกรมสามัญศึกษา โจทก์) ซึ่งได้รับทุนมาดำเนินการว่า สำเร็จการศึกษาแล้วจะต้องรับราชการในกรมวิสามัญศึกษาตามกำหนด หากผิดสัญญายอมคืนเงินค่าใช้จ่ายที่รัฐบาลออกให้ลดลงตามส่วน โดยจำเลยได้ทำสัญญาค้ำประกันไว้ ต่อมาผู้ได้รับทุนรับราชการไม่ครบกำหนดตามสัญญาก็ลาออกไป ดังนี้ ทุนดังกล่าวเป็นทุนที่รัฐบาลประเทศแคนาดาให้ความช่วยเหลือแต่รัฐบาลไทย ตามความต้องการของกระทรวงศึกษาธิการ และกรมวิสามัญศึกษารับมาดำเนินการ จึงมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับทุนนั้น การทำสัญญากับผู้ได้รับทุนก็เพื่อประโยชน์แก่กรมวิสามัญศึกษาเอง รัฐบาลประเทศแคนาดามิได้เกี่ยวข้องกับสัญญาแต่ประการใด และตามสัญญารับทุนทีระบุว่า ผู้รับทุนยินยอมรับใช้ทุนแก่รัฐาลประเทศแคนาดานั้น โจทก์ได้กล่าวในฟ้องแล้วว่าเป็นการกรอกข้อความผิด วัตถุประสงค์ ที่แท้จริงต้องชดใช้ทุนแก่รัฐบาลไทย จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ในเรื่องนี้ ต้องถือว่าจำเลยรับตามที่โจทก์กล่าวในฟ้อง การชดใช้ทุนคืนตามสัญญาจึงมุ่งหมายให้คืนแก่กรมวิสามัญศึกษาซึ่งเป็นคู่สัญญาโดยตรง เมื่อมีการผิดสัญญา โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ (เดิมเป็นกรมวิสามัญศึกษา) เป็นผู้รับทุนที่รัฐบาลแคนาดา มอบให้รัฐบาลไทย มาดำเนินการเพื่อประโยชน์ของกรมวิสามัญศึกษาในขณะนั้น มีสัญญากับผู้ได้รับทุนว่า ต้องกลับมารับราชการในกรมโจทก์ภายในเวลาที่กำหนด ถ้าผิดสัญญาต้องใช้เงินตามส่วน ผู้ได้รับทุนผิดสัญญา จึงขอให้บังคับให้จำเลยผู้ค้ำประกัน
จำเลยให้การว่า จำเลยหลุดพ้นความรับผิดแล้ว โจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตและคดีขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงิน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า เงินทุนที่โจทก์ฟ้องเป็นของรัฐบาล แคนาดา ไม่ใช่ของโจทก์หรือของรัฐบาลไทย โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษากลับ ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ทุนหรือค่าใช้จ่ายที่นายสมบทแพทย์นิกร ได้รับให้ไปศึกษา เป็นทุนที่รัฐบาลประเทศแคนาดาให้ความช่วยเหลือแก่รัฐบาลไทยตาม ความต้องการของกระทรวงศึกษาธิการ และกรมวิสามัญศึกษาในสมัยนั้นรับทุนมาดำเนินการ กรมวิสามัญศึกษาจึงมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับทุนนั้น การที่กรมวิสามัญศึกษาทำสัญญาทำนายสมบทกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ตามเอกสารหมาย จ.๔ ก็เพื่อประโยชน์แก่กรมวิสามัญเอง รัฐบาลประเทศแคนาดามิได้เกี่ยวข้องกับกรณีที่นายสมบทจะต้องคืนทุนหรือค่าใช้จ่ายตามสัญญาแต่ประการใด และตามสัญญารับทุนเอกสารหมาย จ.๔ ข้อ ๘ วรรคสองที่ระบุว่า ผู้รับทุนยินยอมรับใช้ทุนแก่รัฐบาลประเทศแคนาดานั้น โจทก์ได้กล่าวในฟ้องแล้วว่าเป็นการกรอกข้อความผิด วัตถุประสงค์ ที่แท้จริงต้องชดใช้ทุนแก่รัฐบาลไทย จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ในเรื่องนี้ ต้องถือว่าจำเลยรับตามที่โจทก์กล่าวในฟ้อง การชดใช้ทุนคืนตามสัญญาจึงมุ่งหมายให้คืนแก่กรมวิสามัญศึกษาซึ่งเป็นคู่สัญญาโดยตรง ดังนั้น เมื่อมีการผิดสัญญา โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้อง ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น คดีมีปัญหาตามอุทธรณ์จำเลยอีกหลายข้อ ซึ่งศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัย
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์ พิพากษาใหม่ตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้ศาลอุทธรณ์รวมสั่งเมื่อพิพากษาใหม่