คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1788/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยทั้งห้าร่วมกันจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาททั้งสองแปลงให้แก่โจทก์โดยไม่บังคับให้โจทก์ชำระเงินค่าที่ดินพิพาทที่ค้างชำระไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา369แม้จำเลยทั้งห้าจะไม่ฟ้องแย้งและอุทธรณ์ฎีกาในข้อนี้ศาลฎีกาแก้ไขให้ถูกต้องได้เพราะเป็นเรื่องการชำระหนี้ตามสัญญาต่างตอบแทน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2530 จำเลยทั้งห้าได้ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินกับโจทก์ 2 แปลง ในราคา 256,000บาท โจทก์ได้ชำระเงินมัดจำ 20,000 บาท และจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ยังทำสัญญากับโจทก์ว่าก่อนจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าว จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 จะจดทะเบียนภาระจำยอมในที่ดินของตนให้แก่ที่ดินของโจทก์ เมื่อถึงกำหนดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและจดทะเบียนภาระจำยอมจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ได้ขอผัดผ่อนเรื่อยมาต่อมาโจทก์ชำระเงินให้แก่จำเลยที่ 1 ในฐานะหุ้นส่วนและตัวแทนของจำเลยอื่นอีก 200,000 บาท โจทก์บอกกล่าวให้จำเลยที่ 1ถึงที่ 3 ในฐานะหุ้นส่วนและตัวแทนของจำเลยที่ 4 และที่ 5ปฎิบัติตามสัญญา จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 เพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยทั้งห้าร่วมกันจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 2274 เลขที่ดิน 113 จำนวนเนื้อที่ 32 ตารางวาและที่ดินโฉนดเลขที่ 12706 เลขที่ดิน 7664 จำนวนเนื้อที่ 32 ตารางวาตำบลบางซื่อ (บางเขนฝั่งใต้) อำเภอดุสิต (บางซื่อ) กรุงเทพมหานครแก่โจทก์กับให้จำเลยทั้งห้าร่วมกันจดทะเบียนภารจำยอมในการใช้ทางผ่านให้แก่ที่ดินของโจทก์ โฉนดที่ดินเลขที่ 1131182 และที่ดินโฉนดเลขที่ 2279 ตำบลบางซื่อ อำเภอดุสิต กรุงเทพมหานครหากจำเลยทั้งห้าไม่ดำเนินการ ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยทั้งห้า
จำเลยทั้งห้าให้การว่า ได้ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินและสัญญาจดทะเบียนภาระจำยอมไว้กับโจทก์จริง แต่โจทก์ไม่ไปรับโอนกรรมสิทธิ์โจทก์จึงเป็นผู้ผิดนัดผิดสัญญา หลังจากสัญญาจะซื้อขายสิ้นสุดแล้ว โจทก์กับจำเลยที่ 1 ได้ตกลงกันที่จะให้มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่โจทก์ภายในวันที่ 24ธันวาคม 2534 โดยจำเลยอื่นไม่ทราบ ข้อตกลงดังกล่าว จึงไม่ผูกพันจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 จำเลยที่ 4 และที่ 5 ยินดีที่จะขายที่ดินให้แก่โจทก์ในราคาปัจจุบัน ส่วนจำเลยที่ 3 ก็ยินยอมที่จดทะเบียนภารจำยอมให้แก่โจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งห้าร่วมกันจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 2274 เลขที่ดิน 113 จำนวนเนื้อที่32 ตารางวา ที่ดินโฉนดเลขที่ 12706 เลขที่ดิน 7664 จำนวนเนื้อที่ 32 ตารางวา ตำบลบางซื่อ (บางเขนฝั่งใต้) อำเภอดุสิต(บางซื่อ) กรุงเทพมหานคร และจดทะเบียนภารจำยอมในการใช้ทางผ่านแก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 1131182 กับที่ดินโฉนดเลขที่ 2279ตำบลบางซื่อ อำเภอดุสิต กรุงเทพมหานคร ให้แก่โจทก์ หากจำเลยทั้งห้าไม่ดำเนินการให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยทั้งห้า
จำเลย ทั้ง ห้า อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลย ทั้ง ห้า ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยทั้งห้าเป็นฝ่ายผิดสัญญา แต่ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยทั้งห้าร่วมกันจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาททั้งสองแปลงให้แก่โจทก์โดยไม่บังคับให้โจทก์ชำระเงินค่าที่ดินพิพาทที่ค้างชำระไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 369 แม้จำเลยทั้งห้าจะไม่ฟ้องแย้งและอุทธรณ์ฎีกาในข้อนี้ ศาลฎีกาแก้ไขให้ถูกต้องได้ เพราะเป็นเรื่องการชำระหนี้ตามสัญญาต่างตอบแทน
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้โจทก์ชำระเงินค่าที่ดินที่ค้างชำระจำนวน 36,000 บาท ให้แก่จำเลยทั้งห้าด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share