แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อศาลแขวงมีอำนาจรับฟ้องคดีอาญาที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานขัดคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่สั่งให้จำเลยระงับเหตุรำคาญตามพระราชบัญญัติสาธารณสุข มาตรา 74 ไว้พิจารณาพิพากษาแล้วก็ย่อมมีอำนาจตามมาตรา 74 วรรค 2 ที่จะสั่งให้จำเลยปฏิบัติตามมาตรา 23 คือ ระงับเหตุรำคาญตามคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นนั้นได้ด้วย เพราะเป็นคำสั่งส่วนหนึ่งในคดีอาญาที่ฟ้องจำเลยนั่นเอง หาเป็นการเกินอำนาจศาลแขวงที่จะสั่งไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๑ ถึง ๒๔ มกราคม ๒๕๐๔ จำเลยเป็นเจ้าของบ้านเลขที่ ๑๘๐ ตำบลบางยี่ขัน อำเภอบางกอกน้อย จังหวัดธนบุรี ซึ่งก่อความรำคาญโดยหลังคามุงจากไม่ปลอดภัย อาจเกิดอัคคีภัยง่าย และจำเลยเลี้ยงโคในสถานที่นี้ ส่งกลิ่นเหม็นอาจเป็นอัตรายแก่สุขภาพเจ้าพนักงานท้องถิ่นได้ออกคำสั่งเป็นหนังสือไปยังจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของและผู้ปล่อยให้เหตุรำคาญเกิดขึ้นให้ระงับเหตุรำคาญภายในเวลาอันสมควรที่ระบุไว้ในคำสั่ง จำเลยทราบแล้ว ไม่ปฎิบัติตามคำสั่งนั้น ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติสาธารณสุข พ.ศ.๒๔๘๔ มาตรา ๑๙,๒๐,๒๑,๒๓,๗๔ และขอให้ศาลสั่งให้จำเลยเลิกกิจการเลี้ยงโค และเปลี่ยนหลังคามุงจากเป็นสังกะสีตามคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่น
จำเลยรับสารภาพ
ศาลแขวงธนบุรี พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง จำเลยให้การรับ ลดกึ่งคงปรับ ๒๕ บาท ไม่ชำระค่าปรับกักขังแทน ส่วนที่ขอให้ศาลสั่งเลิกเลี้ยงโคและเปลี่ยนหลังคานั้นยังไม่สมควรสั่ง เพราะมิใช่อำนาจของศาลแขวงตามพระราชธรรมนูญศาลยุติธรรมที่จะสั่งได้ ให้ยกคำขอข้อนี้
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ศาลสั่งจำเลยปฎิบัติตามคำขอของโจทก์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ในเรื่องเหตุรำคาญนั้น ตามพระราชบัญญัติสาธารณสุข พ.ศ.๒๔๘๔ มาตรา ๗๔ บัญญัติให้ศาลมีอำนาจสั่งให้ปฏิบัติตามมาตรา ๒๓ โดยไม่ต้องคำนึงว่ามีบุคคลถูกลงโทษตามมาตรานี้หรือไม่ ฉะนั้น คำสั่งศาลในเรื่องนี้เป็นคำสั่งที่ผนวกไปกับคำพิพากษาในคดีอาญา จึงเป็นคำสั่งในคดีอาญาตามมาตรา ๒๒(๒) แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม ศาลแขวงจึงมีอำนาจออกคำสั่งในเรื่องนี้ได้ตามมาตรา ๑๕ แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้จำเลยเลิกกิจการเลี้ยงโคในสถานที่นี้และเปลี่ยนหลังคามุงจากเป็นสังกะสีตามคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นภายใน ๓๐ วัน นอกจากที่แก้ให้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกาว่า คำขอของโจทก์ที่ขอให้บังคับจำเลยเลิกกิจการเลี้ยงโคและเปลี่ยนหลังคาเป็นการปฏิบัติตามคำบังคับซึ่งเกินอำนาจของศาลแขวง หากจะเป็นคดีกันใหม่ ก็เป็นคดีปลดเปลื้องทุกข์ ซึ่งเป็นคดีที่จะต้องขออำนาจศาลแพ่ง
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว พระราชบัญญัติสาธารณสุข พ.ศ.๒๔๘๔ มาตรา ๗๔ บัญญัติว่า “ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามมาตรา ๒๐ หรือ ๒๑ มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าสิบบาท
ส่วนเหตุรำคาญนั้น ให้ศาลมีอำนาจสั่งให้ปฏิบัติตามมาตรา ๒๓ โดยไม่ต้องคำนึงว่ามีบุคคลถูกลงโทษตามมาตรานี้หรือไม่” ศาลฎีกาเห็นว่า มาตรา ๗๔ ให้อำนาจศาลที่จะสั่งให้ปฏิบัติตามมาตรา ๒๓ ได้ในคดีที่มีการฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยอันเป็นคำสั่งส่วนหนึ่งในคดีอาญาที่ฟ้องจำเลยนั่นเอง ฉะนั้น เมื่อศาลแขวงมีอำนาจรับฟ้องคดีอาญานั้นไว้พิจารณาพิพากษาแล้ว ก็ย่อมมีอำนาจสั่งตามมาตรา ๗๔ วรรค ๒ ได้ ไม่เป็นการเกินอำนาจ ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน