แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เจ้าของตึกทำสัญญากับผู้เช่าว่ายอมให้ผู้เช่าออกทุนสร้างตึกให้ดีขึ้นตามรายงานที่ตกลงกัน เมื่อเสร็จแล้วเจ้าของยอมให้ผู้เช่าๆ ต่อไป 15 ปีในอัตราค่าเช่าเดิม ดังนี้เป็นสัญญาต่างตอบแทนกันอันเกี่ยวกับทรัพยสินย่อมตกทอดไปยังทายาทผู้จัดการทรัพย์มฤดกของผู้เช่า ๆ ฟ้องขอให้ผู้เช่ายอมให้เช่าต่อไปจนครบ 15 ปีตามสัญญาเช่าได้
ย่อยาว
สามีโจทก์ได้ทำสัญญากับจำเลยสร้างตึกที่เช่าให้ดีขึ้นโดยมีข้อตกลงว่าเมื่อสร้างแล้วจำเลยยอมให้เช่าต่อไปอีก ๑๕ ปีค่าเช่าเท่าเดิม เมื่อได้สร้างแล้วสามีโจทก์ได้เช่าตามสัญญา สามีโจทก์ตายจำเลยไม่ยอมให้โจทก์ผู้รับและจัดการมฤดกทำสัญญาเช่าต่อไปจนครบ ๑๕ ปี ตามสัญญาโจทก์จึงฟ้องขอให้ศาลบังคับ
จำเลยเถียงว่าสัญญาเช่าเป็นสิทธิ์ส่วนตัวของผู้เช่าคือสามีโจทก์ตามสัญญาไม่มีข้อตกลงตกทอดเป็นมฤดก
ศาลล่างทั้ง ๒ พิพากษาต้องกันให้ยกฟ้องโจทก์เพราะสิทธิ์การเช่าไม่โอนไปยังทายาท
โจทก์ฎีกาว่าสัญญาที่สามีโจทก์ทำไว้นั้นไม่ใช่สัญญาเช่าเป็นสัญญาต่างตอบแทนกันสิทธิและหน้าที่ย่อมตกทอดแก่ทายาท ศาลฎีกาเห็นว่าตามสัญญามีข้อความว่าผู้เช่า (คือสามีโจทก์) ยอมรับรื้อสร้างตึกตามรายการโดยทุนทรัพย์ของผู้เช่าเมื่อเสร็จผู้ให้เช่ายอมให้ผู้เช่าทำสัญญาเช่าตึกต่อไปอีกมีกำหนด ๑๕ ปี ดังนี้เป็นการพรรณาในเรื่องก่อสร้างทั้งนั้นย่อมแสดงเจตนาของคู่กรณีว่าต้องตอบแทนกันในเรื่องทรัพย์สินมิใช่สิทธิฉะเพาะตัว ฉะนั้นเมื่อคู่สัญญาเดิมตายลงสิทธิอันเกี่ยวกับทรัพย์สินนี้ย่อมตกแก่ทายาทตาม ป.ม.แพ่งฯ ม.๑๖๐๐ จึงพิพากษากลับศาลล่าง ให้จำเลยยอมให้โจทก์เช่าตึกในฐานะผู้จัดการมฤดกสามีต่อไปอีก ๑๑ ปี