แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญาเช่ามีข้อความว่าผู้เช่าจะชำระค่าเช่าในวันที่ 7 ของทุกๆ เดือน ผู้เช่าได้รับหนังสือบอกเลิกสัญญาเป็นเวลา 1 เดือนเศษแล้วจึงฟ้องขับไล่ผู้เช่า ดังนี้ผู้เช่าได้รู้ตัวมีกำหนดเวลาค่าเช่าระยะหนึ่ง คือ 1 เดือน ก็เป็นการเพียงพอแล้ว ไม่ขัดกับ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้เช่าตึกแถวของโจทก์เพื่อประกอบการค้ามีกำหนด 20 ปี แต่ไม่ได้ไปจดทะเบียน จึงมีผลเพียง 3 ปี ครบกำหนดตามสัญญาแล้ว โจทก์ได้บอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว จำเลยไม่ยอมออกจึงขอให้ขับไล่
จำเลยให้การทำสัญญาเช่ากัน 20 ปียังเหลืออายุสัญญาเช่า 10 ปีจำเลยไม่ได้ผิดสัญญา จำเลยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ และจำเลยฟ้องแย้งขอให้ศาลแสดงว่า โจทก์ได้ทำสัญญาเช่าและตกลงจะไปจดทะเบียนมีกำหนด 20 ปี
ศาลชั้นต้นฟังว่า โจทก์ได้บอกเลิกสัญญาเช่ากับจำเลยแล้วจำเลยไม่ได้รับความคุ้มครอบตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าพิพากษาให้ขับไล่และใช้ค่าเสียหาย
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง
โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามสัญญาเช่าข้อ 2 มีความว่า ผู้เช่าจะชำระค่าเช่าแก่ผู้เช่าในวันที่ 7 ของทุก ๆ เดือน คดีนี้จำเลยได้รับเอกสารหมาย จ.3 บอกเลิกสัญญาเช่าจากทนายโจทก์เป็นเวลา 1 เดือนเศษจึงฟ้องขับไล่จำเลย จำเลยได้รู้ตัวมีกำหนดเวลาชำระค่าเช่าระยะหนึ่งคือเพียง 1 เดือนก็เป็นการเพียงพอแล้ว ไม่ขัดกับมาตรา 566
ส่วนฎีกาจำเลยที่ขอให้บังคับให้โจทก์ไปจดทะเบียนการเช่านั้นปรากฏว่าสัญญาเช่าโจทก์ได้ตกลงกับจำเลยตามข้อ 10 ว่า ถ้าโจทก์ต้องการเลิกสัญญาก่อนถึงกำหนดก็ได้ แต่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษร 10 วัน ศาลจึงบังคับโจทก์ไปจดทะเบียนให้ไม่ได้
พิพากษากลับให้ขับไล่จำเลยและบริวารจำเลย ให้จำเลยชำระค่าเสียหายเดือนละ 200 บาทและยกฟ้องแย้ง