คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1491/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยที่ 2 ยืนอยู่กับจำเลยที่ 1 ในที่เกิดเหตุในสภาพพร้อมที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ และจำเลยที่ 2 ยังได้พูดกับจำเลยที่ 1 ให้ยิงเข้ามาในกลุ่มของผู้ตายกับพวก เมื่อจำเลยที่ 1ยิงผู้ตายกับพวกแล้ว จำเลยที่ 2 ก็ยังหลบหนีไปพร้อมกับจำเลยที่ 1เช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 2 มีเจตนาร่วมกระทำความผิดด้วยกันกับจำเลยที่ 1 จึงเป็นตัวการร่วมกระทำความผิดกับจำเลยที่ 1ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่นด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 80, 83, 288
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 288, 288 ประกอบด้วยมาตรา 80 ให้ลงโทษฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งเป็นบทหนักตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 จำคุกคนละ 18 ปี คำรับสารภาพของจำเลยทั้งสองชั้นจับกุมและของจำเลยที่ 2 (ที่ถูกจำเลยที่ 1) ชั้นสอบสวนและทางนำสืบของจำเลยทั้งสองเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกคนละ12 ปี ข้อหาอื่นให้ยก
โจทก์และจำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ในเบื้องต้นว่าตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุ พลทหารสมาน มีจันโท ผู้ตายนายชัยพร โพธิ์เกิด นายบุญเลิศ สำเนา นายราเมศหรือสันต์มนธรรม และนายเสน่ห์ แผนสนิท ผู้เสียหายฝ่ายหนึ่ง กับจำเลยทั้งสอง นายจิม นายธวัช นายชาญ กับพวกประมาณ 9 คน อีกฝ่ายหนึ่ง ต่างนั่งดื่มสุราที่โต๊ะใกล้เคียงกัน ทั้งสองฝ่ายต่างพูดจาเย้าแหย่เสียดสีจนจะมีเรื่องชกต่อยกัน แล้วจำเลยที่ 1 ใช้อาวุธปืนยิงถูกผู้ตาย 1 นัด ถึงแก่ความตาย และถูกนายชัยพรได้รับอันตรายสาหัส จำเลยที่ 1 ถูกศาลพิพากษาลงโทษฐานฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่น คดีถึงที่สุดแล้ว ปัญหาวินิจฉัยในชั้นฎีกามีว่าจำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่นด้วยหรือไม่ เมื่อข้อเท็จจริงตามคำเบิกความของประจักษ์พยานโจทก์ทั้งสามปรากฏว่า จำเลยที่ 2 ยืนอยู่กับจำเลยที่ 1ในที่เกิดเหตุในสภาพพร้อมที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ และจำเลยที่ 2 ยังได้พูดกับจำเลยที่ 1 ให้ยิงเข้ามาในกลุ่มของผู้ตายกับพวก และเมื่อจำเลยที่ 1 ยิงผู้ตายกับพวกแล้ว จำเลยที่ 2 ก็ยังหลบหนีไปพร้อมกับจำเลยที่ 1 เช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 2มีเจตนาร่วมกระทำความผิดด้วยกันกับจำเลยที่ 1 จึงเป็นตัวการร่วมกระทำความผิดกับจำเลยที่ 1 ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่นด้วย
พิพากษายืน

Share