คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1491/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยป่วยเป็นโรคจิตเภท ชนิดระแวง จำเลยหวาดระแวงว่าผู้เสียหายจะทำร้ายตนทั้ง ๆ ที่ไม่เคยมีเรื่องโกรธเคืองกันมาก่อนและเป็นเพื่อนบ้านกันมาตั้งแต่เป็นเด็ก เป็นอาการบกพร่องทางจิตสำนึก สำคัญผิดว่าผู้เสียหายเป็นศัตรู จำเลยซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ผู้อื่นขณะใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายดังนี้ จำเลยยังสามารถรู้ผิดชอบและบังคับตนเองได้บ้าง ควรลงโทษน้อยว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 65 วรรคสอง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนสั้นชนิดทำเองขนาด .๒๒ และกระสุนปืน ๑ นัด ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีเหตุอันสมควร และได้ร่วมกับพวกอีกหนึ่งคนใช้อาวุธปืนยิงนายถวิล หนึ่งนัดโดยเจตนาฆ่า แต่กระสุนปืนถูกไม่ถนัด นายถวิลจึงไม่ถึงแก่ความตายเพียงแต่ได้รับอันตรายแก่กาย ขอให้ลงโทษตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ มาตรา ๗, ๘ ทวิ, ๗๒, ๗๒ ทวิ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๐, ๘๓, ๙๑, ๒๘๘
จำเลยให้การปฏิเสธ
นายถวิลผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๐, ๘๓, ๒๘๘ พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา ๗, ๘ ทวิ, ๗๒, ๗๒ ทวิ ฐานพยายามฆ่าจำคุก ๑๐ ปี ฐานมีอาวุธปืนจำคุก ๒ ปี ฐานพาอาวุธปืนจำคุก ๑ ปี รวมจำคุก ๑๓ ปี ลดโทษให้หนึ่งในสามตามมาตรา ๗๘ คงจำคุก ๘ ปี ๘ เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๖๕, ๘๐ จำคุก ๒ ปี ฐานมีอาวุธปืนจำคุก ๑ ปีฐานพาอาวุธปืนจำคุก ๖ เดือน รวมจำคุก ๓ ปี ๖ เดือน ลดโทษให้หนึ่งในสามตามมาตรา ๗๘ คงจำคุก ๒ ปี ๔ เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติตามที่ศาลล่างทั้งสองฟังว่าจำเลยได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บจริงคดีคงมีปัญหาว่า จำเลยกระทำไปในขณะที่ยังรู้สึกผิดชอบและบังคับตนเองได้เป็นปกติหรือไม่ จำเลยเคยเป็นคนไข้ภายในของโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา ที่ประชุมโรงพยาบาลมีมติว่าจำเลยเป็นโรคจิตเภทชนิด ระแวง มีแนวความคิดผิดปกติอาจทำอะไรผิดได้ ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่าจำเลยป่วยเป็นโรคจิต ผู้เสียหายเบิกความว่ารู้จักกับจำเลยมาตั้งแต่เป็นเด็ก บ้านห่างกันประมาณ ๑๐๐ เมตร ไม่เคยมีเรื่องโกรธเคืองกันมาก่อนจำเลยให้การในชั้นสอบสวนว่า จำเลยมีเรื่องไม่ถูกกับผู้เสียหายมาก่อน เรื่องผู้เสียหายขับขี่รถจักรยานยนต์ของสิ่งของที่บิดาจำเลยนำไปวางไว้บนถนนเพื่อทำรั้วบ้าน และเรื่องรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายหายไป มีคนมาบอกจำเลยว่าผู้เสียหายจะนำพรรคพวกมาดักทำร้ายจำเลย จำเลยต้องระมัดระวังตัวตลอดมา แสดงว่าจำเลยหวาดระแวงผู้เสียหายว่าจะทำร้ายตน ทั้ง ๆ ที่ผู้เสียหายไม่เคยมีเรื่องโกรธเคืองกันมาก่อน และเป็นเพื่อนบ้านกันมาตั้งแต่เป็นเด็ก อาการดังกล่าวเป็นการบกพร่องทางจิตสำนัก สำคัญผิดว่าผู้เสียหายเป็นศัตรู เห็นว่า จำเลยป่วยเป็นโรคจิตเภทในขณะกระทำผิดตามความเห็นของแพทย์ โดยระแวงว่าผู้เสียหายจะทำร้ายตน จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายแต่จำเลยยังสามารถรู้สึกผิดชอบและสามารถบังคับตนเองได้บ้าง การลงโทษจำเลยน้อยกว่าโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๘ วรรคสอง
พิพากษายืน

Share