คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 149/2547

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญากู้ยืมเงินจากโจทก์ มีจำเลยที่ 2 ทำสัญญาค้ำประกันจำเลยที่ 1 และจำเลยทั้งสองยังไม่ได้ชำระเงินคืนโจทก์ ในวันทำสัญญากู้ยืมเงิน จำเลยที่ 1 ได้นำใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์กระบะมาวางประกันและทำใบมอบอำนาจให้โจทก์โอนรถยนต์กระบะดังกล่าวมาเป็นของโจทก์ โจทก์ได้ยื่นเรื่องขอจดทะเบียนรับโอนรถยนต์กระบะ แต่เจ้าหน้าที่จดทะเบียนรถยนต์ไม่สามารถจดทะเบียนโอนรถของจำเลยที่ 1 เป็นของโจทก์ได้เนื่องจากรถยนต์กระบะดังกล่าวอยู่ในระหว่างดำเนินคดี จึงฟังไม่ได้ว่าโจทก์ได้รับโอนรถยนต์กระบะดังกล่าวเป็นการชำระหนี้แทนเงินกู้ยืม หนี้ของโจทก์ตามฟ้องยังไม่ระงับ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ต้นเงิน 160,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันกู้ยืมจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ดอกเบี้ยถึงวันฟ้องคิดเป็นเงิน 25,733 บาท
จำเลยทั้งสองให้การ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินจำนวน 160,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2542 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่ดอกเบี้ยคิดถึงวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 11 กรกฎาคม 2543) ต้องไม่เกิน 25,733 บาท หากจำเลยที่ 1 ไม่ชำระ ให้จำเลยที่ 2 ชำระแทน คำขออื่นให้ยก
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา โดยผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองว่ามีเหตุสมควรที่จะฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยโดยไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกาโต้แย้งว่า เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2542 จำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญากู้ยืมเงินจากโจทก์ไป 160,000 บาท มีจำเลยที่ 2 ทำสัญญาค้ำประกันจำเลยที่ 1 และจำเลยทั้งสองยังไม่ได้ชำระเงินคืนโจทก์ ในวันทำสัญญากู้ยืมเงิน จำเลยที่ 1 ได้นำใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน ผ-8841 อุบลราชธานี มาวางประกันและทำใบมอบอำนาจให้โจทก์โอนรถยนต์ดังกล่าวมาเป็นของโจทก์ มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า โจทก์ได้จดทะเบียนโอนรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน ผ-8841 อุบลราชธานี ของจำเลยที่ 1 มาเป็นของโจทก์ เป็นการชำระหนี้แทนเงินกู้ยืมหรือไม่ โจทก์มีนายดาบตำรวจประดิษฐ์ ดอกไม้ มาเบิกความเป็นพยานว่า พยานรับราชการที่สำนักงานขนส่งจังหวัดอุบลราชธานี มีหน้าที่จดทะเบียนรถยนต์เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2542 โจทก์ได้ยื่นเรื่องขอจดทะเบียนรับโอนรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน ผ-8841 อุบลราชธานี แต่ไม่สามารถจดทะเบียนโอนให้ได้เนื่องจากรถยนต์ดังกล่าวอยู่ในระหว่างดำเนินคดี พยานจึงได้ยกเลิกรายการขอจดทะเบียนรับโอนของโจทก์ ซึ่งจำเลยทั้งสองได้เบิกความเจือสมพยานโจทก์ดังกล่าว โดยจำเลยที่ 1 เบิกความตอบทนายโจทก์ถามค้านว่า จำเลยที่ 1 ทราบว่ารถยนต์ดังกล่าวไม่สามารถจดทะเบียนโอนได้ จำเลยที่ 2 เบิกความตอบทนายโจทก์ถามค้านว่า รถยนต์ของจำเลยที่ 1 ได้จดทะเบียนโอนไปแล้วต่อมามีการยกเลิก เมื่อพิเคราะห์ใบคู่มือจดทะเบียนแล้วปรากฏว่า มีการขีดขวางรายการจดทะเบียนและประทับตรายกเลิก ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่าเจ้าหน้าที่จดทะเบียนรถยนต์ไม่สามารถจดทะเบียนโอนรถของจำเลยที่ 1 เป็นของโจทก์ได้เนื่องจากรถยนต์ดังกล่าวอยู่ในระหว่างดำเนินคดี จึงฟังไม่ได้ว่าโจทก์ได้รับโอนรถยนต์ดังกล่าวเป็นการชำระหนี้แทนเงินกู้ยืม ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยว่า หนี้ของโจทก์ตามฟ้องระงับไปแล้ว ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share