แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยนำผู้ตายไปส่งโรงพยาบาลในทันทีหลังจากที่ขับรถชนผู้ตาย ถือไม่ได้ว่าจำเลยหลบหนีไปจนเป็นเหตุให้ผู้ตายได้รับอันตรายถึงตายตาม พระราชบัญญัติ จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 160วรรคสอง จำเลยคงมีความผิดตามมาตรา 160 วรรคแรก เท่านั้น.(ที่มา-ส่งเสริม)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขับรถยนต์ด้วยความประมาทเฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตายไม่แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ใกล้เคียงทันทีกลับหลบหนีไป เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายถึงตายขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291, 91 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 (4), 157, 78, 160, 162 และเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ของจำเลย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 (4), 157การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวแต่ผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ซึ่งเป็นบทหนักตามมาตรา 90ให้จำคุก 4 ปี และลงโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522มาตรา 78, 160 อีกกระทงหนึ่ง ให้จำคุก 2 เดือน รวมโทษจำคุก 4 ปี2 เดือน ส่วนคำขอที่ให้เพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ของจำเลยนั้นตามพฤติการณ์แห่งคดียังไม่สมควรเพิกถอน จึงให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘…การที่จำเลยขับรถไปชนผู้ตายจนได้รับอันตรายแก่กายถึงสาหัสและถึงความตายในเวลาต่อมา จึงเกิดจากความประมาทของจำเลยแต่เพียงฝ่ายเดียว และเมื่อจำเลยขับรถชนผู้ตายแล้วจำเลยมิได้แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ คดีจึงรับฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกด้วย…แต่ที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 2 เดือน ซึ่งน่าจะเป็นโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก มาตรา 78, 160 วรรคสองนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าไม่ถูกต้องเพราะการที่จำเลยได้นำผู้ตายไปส่งโรงพยาบาลในทันทีหลังจากเกิดเหตุ จะถือว่าจำเลยหลบหนีไปจนเป็นเหตุให้ผู้ตายได้รับอันตรายถึงตายตามมาตรา 160วรรคสองหาได้ไม่ จำเลยจึงคงมีความผิดตามมาตรา 160 วรรคแรกเท่านั้น จึงเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง’
พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา291 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 (4), 157 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวแต่ผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ซึ่งเป็นบทหนักตามมาตรา 90 ให้จำคุก4 ปี และลงโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 78, 160วรรคแรก ให้จำคุก 1 เดือน รวมโทษจำคุก 4 ปี 1 เดือน นอกจากนี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.