คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1482/2529

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ขณะจำเลยนำเช็คพิพาทไปแลกเงินสดจากโจทก์เช็คพิพาทมีวันเดือนปีที่ออกเช็คครบถ้วนสมบูรณ์ตามกฎหมายจำเลยผู้ออกเช็คย่อมทราบได้ว่าจะต้องมีการใช้เงินตามเช็คนั้นในวันใด เมื่อเช็คถึงกำหนด ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินโดยอ้างว่าบัญชีปิดแล้ว จำเลยจึงต้องมีความผิด ส่วนจำเลยจะเป็นผู้ลงวันเดือนปีที่ออกเช็คด้วยลายมือของจำเลยเองหรือไม่ ไม่เป็นข้อสำคัญ และไม่ทำให้จำเลยพ้นความรับผิดไปได้กรณีมิใช่เป็นเรื่องไม่มีวันที่ผู้ออกเช็คกระทำผิด

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3จำคุก 5 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายสรุปความได้ว่า เช็คฉบับพิพาทจำเลยผู้ออกเช็คมิได้เป็นผู้ลงวันเดือน ปี ที่ออกเช็คด้วยตนเอง จึงไม่มีวันที่ผู้ออกเช็คกระทำผิดการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง เพราะเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497มาตรา 3 ประสงค์เอาผิดกับผู้ออกเช็คที่ลงวัน เดือน ปีที่ออกเช็คด้วยลายมือของตนเองเท่านั้น เห็นว่าในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาจำต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวน ซึ่งศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงมาว่า ขณะที่จำเลยนำเช็คไปแลกเงินสดจากโจทก์เช็คมีข้อความครบถ้วน คือ ลงวันเดือนปีที่สั่งจ่ายไว้แล้วศาลฎีกาเห็นว่าเช็คพิพาทมีวันเดือนปีที่ออกเช็คครบถ้วนสมบูรณ์ตามกฎหมาย จำเลยผู้ออกเช็คย่อมจะทราบได้ว่าจะต้องมีการใช้เงินตามเช็คนั้นในวันใด เมื่อเช็คถึงกำหนด ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินโดยอ้างว่าบัญชีปิดแล้ว จำเลยผู้ออกเช็คจึงต้องมีความผิดส่วนจำเลยจะเป็นผู้ลงวันเดือนปีที่ออกเช็คด้วยลายมือของจำเลยเองหรือไม่จึงไม่เป็นข้อสำคัญและไม่ทำให้จำเลยพ้นความรับผิดไปได้กรณีมิใช่เป็นเรื่องไม่มีวันที่ผู้ออกเช็คกระทำผิดดังที่จำเลยฎีกาศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีมาชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share