คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1481/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำร้องของจำเลยมีความว่า เหตุที่จำเลยมิได้ยื่นคำให้การแก้คดีเนื่องจากจำเลยไม่เคยทราบหมายเรียกและคำฟ้องของโจทก์ เพราะโจทก์นำส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไม่ตรงตามภูมิลำเนาอันแท้จริงของจำเลยและชื่อจำเลยตามฟ้องก็ไม่ถูกต้อง ขอให้ศาลสั่งโจทก์นำส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องเพื่อให้จำเลยแก้คดีเสียให้ถูกต้องนั้น ไม่ได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งเหตุที่จำเลยได้ขาดนัดและข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล คำร้องของจำเลยจึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา 208 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ที่ศาลจะสั่งให้มีการพิจารณาใหม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยใช้เงินตามเช็คและค่าเสียหาย

จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินและดอกเบี้ยตามฟ้อง

จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้นำส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องเพื่อให้จำเลยแก้คดีเสียใหม่ให้ถูกต้อง

ศาลชั้นต้นสั่งว่า ศาลพิพากษาคดีเสร็จเด็ดขาด จำเลยจะขอให้ศาลสั่งโจทก์นำส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องอีกไม่ได้ ให้ยกคำร้อง

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อความตามคำร้องและคำขอท้ายคำร้องของจำเลยที่กล่าวว่า เหตุที่จำเลยมิได้ยื่นคำให้การแก้คดี ก็เนื่องจากว่าจำเลยยังไม่เคยทราบหมายเรียกและคำฟ้องของโจทก์ เพราะโจทก์นำส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไม่ตรงตามภูมิลำเนาของจำเลยที่แท้จริง และว่าชื่อจำเลยตามฟ้องโจทก์ก็ไม่ถูกต้อง จึงขอให้ศาลสั่งให้จำเลย (คงหมายถึงโจทก์) นำส่งหมายเรียกและสำเนาท้ายฟ้องเพื่อให้จำเลยแก้คดีเสียใหม่ให้ถูกต้องนั้น ไม่ได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งเหตุที่คู่ความ (คือจำเลย) ได้ขาดนัด และข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล ดังที่บัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรค 2 อันบัญญัติถึงการยื่นคำขอให้มีการพิจารณาคดีใหม่ ฉะนั้น คำร้องขอของจำเลยจึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา 208 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ที่ศาลจะสั่งให้มีการพิจารณาคดีใหม่ได้

พิพากษายืน

Share