คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1377/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระ แต่โจทก์มุ่งขอให้ลงโทษฐานอื่น ส่วนในฐานยักยอก โจทก์เป็นแต่กล่าวรวม ๆ ว่าจำเลยยักยอกเงินหลวง มิได้กล่าวให้ขัดว่าจำเลยยักยอกหลายครั้งหลายหนดังนี้ ศาลจะลงโทษจำเลยฐานยักยอกเรียงกะทงมิได้ จำเลยต้องมีผิดกระทงเดียว. คำแถลงการณ์ที่นอกเหนือไปจากฎีกานั้น ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยให้ ประมวลวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 18 ฎีกาที่ยื่นภายในกำหนดอายุความนั้น แต่มีข้อบกพร่องโดยศาลให้ไปแก้เสียใหม่นั้นถือว่าได้ยื่นภายในกำหนดอายุความแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นสมุห์บัญชีทหารได้กระทำผิดหลายบทหลายกะทงต่างกรรมต่างวาระ คือเมื่อวันที่ ๒,๕,๑๖,๑๗,๒๘ มีนาคม ๒๔๗๘ จำเลยไม่กระทำตามข้อบังคับสำหรับทหารบกว่าด้วยการเงิน พ.ศ.๒๔๗๑ โดยจำเลยนำเงินออกจ่ายแล้วเหลืออยู่ จำเลยไม่นำเข้าเก็บตามข้อบังคับ กลับยักยอกเอาเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย ๓,๖๐๓ บาท ๒๘ สตางค์ ขอให้ลงโทษตาม ม.๑๓๑,๓๑๔,๓๑๙,๗๐ และประมวลกฎหมายอาญาทหาร ม.๗๒
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกจำเลย ๑ ปี ตามม.๑๓๑ กะทงเดียว ให้ยกข้อหาที่ขอให้ลงโทษฐานผิดข้อบังคับการเงิน
ศาลอุทธรณ์ตัดสินยืนในข้อที่ไม่ลงโทษฐานผิดข้อบังคับการเงินแต่เห็นว่าการกระทำของจำเลยต่างกรรมต่างวาระกันเป็น ๕ กะทง ให้ลงโทษจำเลยตาม ม.๑๓๑ เรียงกะทงจำคุกจำเลย ๓ ปี
จำเลยฎีกาว่าศาลไม่ควรลงโทษเรียงกะทงความผิดทุกกะทงไป ส่วนโจทก์คัดค้านว่าฎีกาจำเลยขาดอายุความ
ศาลฎีกาตัดสินว่าฎีกาจำเลยไม่ขาดอายุความเพราะปรากฎว่าจำเลยยื่นฎีกาภายในกำหนดอายุความ แต่จ่าศาลได้บรรทึกไว้ว่าให้จำเลยทำเสียใหม่ให้ถูกต้องโดยคืนคำฎีกานั้นให้จำเลย
ส่วนฎีกาของจำเลยนั้น เห็นว่าจริงอยู่โจทก์ระบุในฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดหลายกะทงต่างกรรมต่างวาระ แต่โจทก์ก็มุ่งถึงการไม่เก็บเงินในเวลาที่ควรเก็บตามข้อบังคับว่าด้วยการเงิน ซึ่งเป็นผิดตามประมวลอาญาทหาร ม.๓๒ ส่วนความผิดฐานยักยอกฟ้องโจทก์ไม่ได้กล่าวข้อความให้เข้าใจขัดว่า จำเลยยักยอกหลายครั้งหลายหน โจทก์กล่าวรวม ๆ ว่าจำเลยยักยอกเงินหลวง ๓,๖๐๓ บาท ๒๘ ส.ต. เท่านั้น เห็นว่าที่ศาลชั้นต้นลงโทษฐานยักยอกกะทงเดียวชอบแล้ว ส่วนข้อที่จำเลยแถลงขอให้ยกฟ้อง เห็นว่าการแถลงเกินกว่าฎีกาของจำเลยจะรับฟังมิได้ จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น

Share