คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเช่าห้องพิพาทของโจทก์เพื่อประกอบการค้ามีกำหนด 3 ปี จำเลยให้การว่า จำเลยได้ทำสัญญาเช่าห้องพิพาทของโจทก์ เพื่อทำการค้าและอยู่อาศัยเป็นระยะเวลา 3 ปีจริง คำให้การนี้มิได้มุ่งหมายที่จะยกข้ออยู่อาศัยขึ้นต่อสู้ จึงไม่มีประเด็นว่าจำเลยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัตควบคุมการเช่าฯ หรือไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเช่าห้องของโจทก์เพื่อประกอบการค้า ครั้นสิ้นอายุสัญญาจำเลยคงใช้ห้องต่อไป ต่อมาจำเลยไม่ชำระค่าเช่า ขอให้ศาลพิพากษาขับไล่
จำเลยให้การว่า ได้เช่าห้องเพื่อทำการค้าและอยู่อาศัยจริง เมื่อครบอายุสัญญาแล้วได้เช่ากันต่อมา โดยไม่มีกำหนดเวลา ต่อมาโจทก์จำเลยตกลงกันว่า เมื่อโจทก์ให้เงินจำเลย ๒๐,๐๐๐ บาท จำเลยจะคืนห้องให้โจทก์ ระหว่างนี้โจทก์ให้จำเลยอยู่โดยไม่ต้องเสียค่าเช่า
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าที่โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเช่าห้องพิพาทของโจทก์เพื่อประกอบการค้ามีกำหนด ๓ ปี และจำเลยให้การว่าจำเลยได้ทำสัญญาเช่าห้องพิพาทของโจทก์ เพื่อทำการค้าและอยู่อาศัยเป็นระยะเวลา ๓ ปีจริง คำให้การของจำเลยเป็นการกล่าวทวนความถึงการเช่าตามคำฟ้องเท่านั้น ไม่ได้มุ่งหมายยกข้ออยู่อาศัยขึ้นมาต่อสู้ จึงไม่มีประเด็นว่า จำเลยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าฯ หรือไม่
พิพากษายืน.

Share