คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1481/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พฤติการณ์ที่ถือว่า เป็นการข่มเหงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมและกระทำให้บันดาลโทษะ ตามก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 55

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙
จำเลยรับว่าได้ทำร้ายผู้ตายจริง แต่กระทำเพราะผู้ตายยั่วโทษะ จำเลยบันดาลโทษะขึ้นในขณะนั้น และได้กระทำความผิดลงไป
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยตามมาตรา๒๔๙,๕๕ จำคุก ๑๐ ปี ลดฐานรับสารภาพเสียกึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๕ ปี
โจทก์จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลสั่งรับเฉพาะข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้ตายเป็นภรรยาจำเลยจำเลยหลงรักผู้ตายอย่างมากมาย ทั้งที่ผู้ตายมีชื่อเสียงเป็นหญิงนักเที่ยว และมีสามีมาแล้ว ๓ คน เมื่อผู้ตายไม่กลับไปหาจำเลยเป็นเวลา ๔ คืน จำเลยก็ระแวงว่าผู้ตายจะนอกใจจึงวิงวอนให้ผู้ตายกลับแต่โดยดี ผู้ตายกลับด่าจำเลยด้วยถ้อยคำ ซึ่งชาวบ้านชนบทนั้นถือว่าเป็นคำหยาบคายที่สุด ทั้งผู้ตายยังใช้เท้าถีบเตะจำเลย และเอาศีร์ษะชนหน้าอกจำเลยครั้งสุดท้ายที่จำเลยอ้อนวอนผู้ตายให้กลับบ้าน ผู้ตายด่าอีกว่า ” ขี้หีกูไม่ไปกับมึง ดำก็ดำ แดงก็แดง กูไม่ไป ” จำเลยบันดาลโทษะจึงใช้มีดแทงผู้ตายในขณะนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าการกระทำของผู้ตายดังกล่าวถือได้ว่า ผู้ตายได้ข่มแหงจำเลยด้วยเหตุไม่เป็นธรรม และจำเลยบันดาลโทษะขึ้นในขณะนั้น กรณีต้องด้วย ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๕๕ ฯลฯ
จึงพิพากษายืน

Share