คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 148/2545

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

คดีนี้แม้เดิมจะเป็นคดีมีทุนทรัพย์ แต่ในชั้นอุทธรณ์โจทก์เพียงแต่ขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาให้ศาลชั้นต้นพิจารณาใหม่ไม่ได้ขอให้พิพากษาให้โจทก์เป็นฝ่ายชนะคดี จึงเป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ตามตาราง 1 ข้อ (2)(ก) ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เพียง 200 บาท เท่านั้น

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 22กรกฎาคม 2542 เนื่องจากโจทก์ขาดนัดพิจารณาไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องหรือขอเลื่อนคดี โจทก์ยื่นคำร้องขอลงวันที่ 1 กันยายน 2542 ให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้พิจารณาใหม่อ้างว่าผู้รับมอบอำนาจโจทก์ซึ่งเป็นทนายความโจทก์ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ไม่สามารถมาศาลตามนัดได้

จำเลยคัดค้านว่า โจทก์สะเพร่าและบกพร่องขาดนัดพิจารณาโดยจงใจ และอ้างเหตุเจ็บป่วยเป็นความเท็จ โจทก์ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่เกินกำหนด ขอให้ยกคำร้องขอ

ศาลชั้นต้นไต่สวนพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายแล้ว เชื่อว่า โจทก์ขาดนัดพิจารณาโดยจงใจ ไม่มีเหตุที่จะยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ ให้ยกคำร้องขอ

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ส่งคำพิพากษาให้ศาลชั้นต้นอ่าน โดยมีคำสั่งไปด้วยว่าคำขอให้พิจารณาใหม่ของโจทก์ถือเป็นคำฟ้อง ต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ตามทุนทรัพย์พิพาทตามตาราง 1 ข้อ (1)(ก) ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง การที่โจทก์เสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์อย่างคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้เพียง 200 บาทตามตาราง 1 ข้อ (2)(ก) ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งไม่ถูกต้อง ก่อนอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์เพิ่มให้ครบตามจำนวนทุนทรัพย์พิพาท หากไม่ชำระให้ศาลชั้นต้นส่งสำนวนคืนศาลอุทธรณ์ภาค 1 เพื่อดำเนินการต่อไป

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์เพิ่มให้ครบตามจำนวนทุนทรัพย์พิพาทก่อนหรือภายในกำหนดนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ในวันที่ 19 เมษายน 2544

โจทก์ฎีกาคัดค้านว่า คำขอให้พิจารณาใหม่ของโจทก์มิใช่เป็นคดีมีทุนทรัพย์ดังที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัย แต่เป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ตามตาราง 1 ข้อ (2)(ก) ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เพียง 200 บาทเท่านั้น ขอให้ศาลฎีกาพิพากษายกคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 1 และยกคำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งตามคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 1 พร้อมกับยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาการชำระเงินค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์และขอให้เลื่อนนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ออกไปจนกว่าศาลฎีกาจะมีคำพิพากษา

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตตามคำร้องของโจทก์

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า คำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 1 ที่ให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์อย่างคดีมีทุนทรัพย์ชอบแล้วหรือไม่ เห็นว่า แม้เดิมคดีนี้เป็นคดีมีทุนทรัพย์ แต่ในชั้นอุทธรณ์โจทก์เพียงแต่ขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาให้ศาลชั้นต้นพิจารณาใหม่ ไม่ได้ขอให้พิพากษาให้โจทก์เป็นฝ่ายชนะคดี จึงเป็นคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ซึ่งต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ตามตาราง 1ข้อ (2)(ก) ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเพียง200 บาท ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์อย่างคดีมีทุนทรัพย์จึงเป็นการไม่ชอบ ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น”

พิพากษายกคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 1 และคำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งตามคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 1 ดังกล่าว ให้ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ให้คู่ความฟังต่อไป

Share