คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1479/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลย สัญญาจ้างระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นสัญญาต่างตอบแทน โดยโจทก์ต้องทำงานให้แก่จำเลยและจำเลยต้องชำระสินจ้างให้แก่โจทก์ แม้จำเลยอาจไม่มอบงานหรือสั่งให้โจทก์ทำงาน จำเลยก็ต้องจ่ายสินจ้างให้ตลอดเวลาที่จ้างกันจนกว่าจะมีการเลิกสัญญาจ้าง การที่จำเลยหยุดกิจการเพื่อซ่อมแซมโรงงานที่ถูกเพลิงไหม้มิได้เป็นเหตุขัดขวางอย่างใดที่จะทำให้ถึงแก่จำเลยจ่ายสินจ้างไม่ได้ เพราะยังไม่พ้นวิสัยที่จำเลยจะชำระหนี้จ่ายสินจ้างให้โจทก์

ย่อยาว

โจทก์ทั้งแปดฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างจำเลย เมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๖ บริษัทจำเลยถูกเพลิงไหม้ จำเลยจึงหยุดงานและไม่จ่ายค่าจ้างนับแต่วันดังกล่าวให้แก่โจทก์ โดยจำเลยยังไม่ได้เลิกจ้างโจทก์ ขอให้ศาลพิพากษาบังคับจำเลยจ่ายค่าจ้างตามกำหนดจ่ายค่าจ้าง นับแต่วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๖ จนกว่าจำเลยจะรับโจทก์กลับเข้าทำงาน
จำเลยให้การว่า โรงงาน อาคาร และอุปกรณ์เครื่องมือของจำเลยถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายจนไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ จึงต้องหยุดกิจการชั่วคราวเพื่อซ่อมแซมและเป็นเหตุสุดวิสัยโดยมิใช่ความผิดของจำเลย โจทก์ทั้งแปดไม่ได้ทำงานให้แก่จำเลย จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าจ้างเอาจากจำเลย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า สัญญาจ้างระหว่างโจทก์กับจำเลยยังไม่เลิกโจทก์พร้อมที่จะชำระหนี้ให้จำเลยด้วยการทำงาน จำเลยจะยกเอาเหตุที่ไม่มีงานให้โจทก์ทำเพื่อไม่จ่ายค่าจ้างหาชอบไม่ และไม่ใช่ความผิดของโจทก์ แต่จะให้จำเลยจ่ายค่าจ้างเต็มจำนวนตลอดเวลาที่โรงงานหยุดกิจการ เพื่อซ่อมแซมย่อมไม่เป็นธรรมแก่จำเลย ควรกำหนดจำนวนเงินเป็นค่าเสียหายแทนค่าจ้างงวดละ ๕๐๐ บาท นับแต่วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๖ จนกว่าจำเลยจะรับโจทก์เข้าทำงานตามปกติ หรือจนกว่าสัญญาจ้างจะสิ้นสุด
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า หนี้ระหว่างโจทก์กับจำเลยเกิดแต่สัญญาต่างตอบแทน การชำระหนี้ของโจทก์อยู่ที่การต้องทำงานให้แก่จำเลย การชำระหนี้ของจำเลยอยู่ที่การชำระสินจ้างให้แก่โจทก์ การมอบงานหรือสั่งให้โจทก์ทำงานเป็นสิทธิและหน้าที่ของจำเลย จำเลยอาจไม่มอบงานหรือสั่งให้โจทก์ทำงานก็ได้ แต่ต้องจ่ายสินจ้างให้ตลอดเวลาที่ตกลงจ้างกันจนกว่าจะมีการเลิกสัญญาจ้าง การที่จำเลยหยุดกิจการเพราะซ่อมแซมโรงงานที่ถูกเพลิงไหม้ มิได้เป็นเหตุขัดขวางอย่างใดที่จะทำให้ถึงแก่จำเลยจ่ายสินจ้างให้โจทก์ไม่ได้ เพราะยังไม่พ้นวิสัยที่จำเลยจะชำระหนี้จ่ายสินจ้างให้โจทก์
ข้ออุทธรณ์ของจำเลยที่ว่า จำเลยมิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาจ้างแรงงานศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยชำระค่าเสียหายแทนสินจ้าง เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เห็นว่า เงินที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายแก่โจทก์นั้น เนื้อแท้ก็คือสินจ้าง หาใช่ค่าเสียหายที่จำเลยผิดสัญญาไม่ จึงเป็นการใช้ถ้อยคำสับสนกัน ไม่เป็นข้อที่จำเลยจะยกขึ้นมาอ้างให้ชนะคดีได้
ข้ออุทธรณ์ของจำเลยที่ว่า โรงงานของจำเลยถูกเพลิงไหม้เสียหายหมดไม่สามารถจัดให้ลูกจ้างทำงานได้ ถือว่าสัญญาจ้างสิ้นไปโดยปริยาย นั้น เห็นว่า เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลแรงงานกลาง จึงไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายืน

Share