คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1247/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 2 ต้องโทษตามคำพิพากษาของศาลทหาร ซึ่งต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 29 ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2519 ข้อ 1 จำเลยที่ 2 จึงอุทธรณ์มิได้ประการหนึ่ง อีกประการหนึ่งศาลอุทธรณ์เป็นศาลยุติธรรมพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 2 ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจที่จะพิจารณาพิพากษาคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลทหาร จำเลยที่ 2 จึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลทหารต่อศาลอุทธรณ์ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองต่อศาลมณฑลทหารบกที่ ๕ (ศาลจังหวัดตรัง) ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๐๐ พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔๓, ๑๕๗ ศาลมณฑลทหารบกที่ ๕ (ศาลจังหวัดตรัง) พิจารณาแล้วพิพากษาว่าจำเลยที่ ๑ มีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔๓, ๑๕๗ ปรับ ๕๐๐ บาท จำเลยที่ ๒ มีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔๓ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๙๐ กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๙๐ ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุก ๑ เดือน ปรับ ๑,๐๐๐ บาท โทษจำคุกให้รอไว้ ๑ ปี
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์ ศาลมณฑลทหารบกที่ ๕ (ศาลจังหวัดตรัง) มีคำสั่งว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลทหาร ต้องห้ามอุทธรณ์ตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๒๙ ลงวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๑๙ ไม่รับอุทธรณ์
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า เป็นคดีอยู่ในอำนาจศาลทหารที่จะพิจารณาพิพากษาตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๑ ลงวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ ข้อ ๑ จึงต้องห้ามอุทธรณ์ตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๒๙ ลงวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๑๙ ข้อ ๑ ให้ยกคำร้อง
จำเลยที่ ๒ ฎีกา ศาลมณฑลทหารบกที่ ๕ (ศาลจังหวัดตรัง) มีคำสั่งว่า คำสั่งศาลอุทธรณ์เป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๙๘ ทวิ วรรคสุดท้าย จึงฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ไม่ได้ ต้องห้ามให้ยกฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ของจำเลยที่ ๒
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาของศาลมณฑลทหารบกที่ ๕ (ศาลจังหวัดตรัง) ต่อศาลฎีกา ศาลฎีกามีคำสั่งว่าฎีกาจำเลยที่ ๒ เป็นฎีกาคัดค้านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ ไม่ใช่ฎีกาคัดค้านคำสั่งของศาลทหาร จึงให้รับฎีกาจำเลยที่ ๒ ไว้พิจารณา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า สำหรับปัญหาที่จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์คำสั่งศาลอุทธรณ์ขึ้นมานั้น เห็นว่าจำเลยที่ ๒ ต้องโทษตามคำพิพากษาของศาลทหาร ซึ่งต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ ๒๙ ลงวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๑๙ ข้อ ๑ จำเลยที่ ๒ จึงอุทธรณ์มิได้ประการหนึ่งอีกประการหนึ่งศาลอุทธรณ์เป็นศาลยุติธรรมตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา ๒ ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจที่จะพิจารณาพิพากษาคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลทหาร จำเลยที่ ๒ จึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลทหารต่อศาลอุทธรณ์ได้ คำสั่งศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share