คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1478/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 4 ร่วมกันทำร้ายผู้ตาย ส่วนจำเลยที่ 2, 3 ไม่ได้ทำร้ายและไม่ได้ร่วมรู้เห็นในการทำร้ายมาก่อน แต่ได้จ้องปืนมาทางพยานโจทก์พูดห้ามไม่ให้คนอื่นเกี่ยวข้องในการที่จำเลยที่ 1,4 ทำร้ายผู้ตาย จึงเป็นการช่วยเหลือและให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1,4 แม้จำเลยที่ 1,4 จะมิได้รู้ถึงการช่วยเหลือให้ความสะดวกนั้นก็ตามจำเลยที่ 2,3 ก็เป็นผู้สนับสนุน แต่ไม่ใช่ตัวการ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ใช้ปืน ขวาน ไม้ตะพดทำร้ายร่างกายและตัดศีรษะนายเปี๋ยก โดยเจตนาฆ่าให้ตายโดยไตร่ตรองและกระทำโดยทารุณโหดร้าย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๒๘๙, ๘๓ ริบของกลาง
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยทั้ง ๔ ได้ร่วมกันฆ่านายเปี๊ยกโดยไตร่ตรองแต่ไม่ได้กระทำโดยทารุณโหดร้าย พิพากษาว่าจำเลยทั้ง ๔ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙ (๔) ให้ประหารชีวิตจำเลยที่ ๑, ๒, ๓ ส่วนจำเลยที่ ๔ อายุไม่เกิน ๒๐ ปี ลดมาตราส่วนโทษให้ตามมาตรา ๗๖,๕๒ เสีย ๑ ใน ๓ คงจำคุกจำเลยที่ ๔ ตลอดชีวิต
จำเลยทั้ง ๔ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยที่ ๑ และที่ ๔ ได้ร่วมกันทำร้ายผู้ตายจนถึงตายแต่ไม่ได้กระทำโดยไตร่ตรองมาก่อน ส่วนจำเลยที่ ๒, ๓ ไม่ได้ร่วมคิดกับจำเลยอื่นมาก่อนพิพากษาแก้ว่าจำเลยที่ ๑,๔ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ให้จำคุกจำเลยที่ ๑ ตลอดชีวิต ส่วนจำเลยที่ ๔ อายุเพียง ๑๙ ปี ลดมาตราส่วนโทษ ๑ ใน ๓ ตามมาตรา ๗๖, ๕๓ (๑) ให้จำคุก ๑๖ ปี ให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๒,๓
โจทก์และจำเลยที่ ๑,๔ ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้ที่ลงมือทำร้ายผู้ตายมีแต่จำเลยที่ ๑ และที่ ๔ เพียง ๒ คน เท่านั้น ส่วนจำเลยที่ ๒,๓ ไม่ได้ลงมือทำร้ายและไม่ได้ร่วมรู้เห็นในการทำร้ายมาก่อน แต่ได้จ้องปืนมาทางพยานโจทก์พูดห้ามไม่ให้คนอื่นเกี่ยวข้องในการที่จำเลยที่ ๑, ๔ ทำร้ายผู้ตาย จึงเป็นการช่วยเหลือและให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ ๑,๔ ในการกระทำผิด แม้จำเลยที่ ๑,๔ จะมิได้รู้ถึงการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกนั้นก็ตาม จำเลยที่ ๒,๓ ก็เป็นผู้สนับสนุน แต่ไม่ใช่ตัวการ
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยที่ ๒,๓ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๖ และ ๕๓ (๑) ลงโทษสองในสามของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่สนับสนุน ให้จำคุกคนละสินหกปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share