คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1478/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยขอให้โจทก์เจรจาติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญการพิสูจน์ลายมือเพื่อพิสูจน์ลายมือในพินัยกรรมในคดีที่จำเลยฟ้องขอแบ่งมรดก โจทก์ได้เจรจาจนผู้เชี่ยวชาญนั้นยอมรับจะพิสูจน์ จำเลยจึงได้ทำสัญญาให้โจทก์ไว้มีข้อความว่า
ข้อ 1 ผู้ให้สัญญายอมให้ผู้ถือสัญญาจัดการวิ่งเต้นช่วยเหลือคดีมรดกของผู้ให้สัญญา และ
ข้อ 2 เมื่อคดีมรดกของผู้ให้สัญญาได้เสร็จสิ้นลงและผู้ให้สัญญาได้รับเงินส่วนแบ่งในคดีมรดกนั้นแล้ว ผู้ให้สัญญาต้องจ่ายเงิน 60,000 บาทให้แก่ผู้ถือสัญญา ฯลฯ
ข้อ 3 หากคดีมรดกนี้ได้มีการประนีประนอมยอมความลงก่อนศาลพิพากษา ผู้ให้สัญญายอมจ่ายเงินรางวัลให้แก่ผู้ถือสัญญาเพียง 30,000 บาท
ดังนี้ หากมีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาลโดยจำเลยได้รับส่วนแบ่งมรดกแล้ว แม้ผู้เชี่ยวชาญจะยังมิได้ทำการพิสูจน์ลายมือ จำเลยก็ต้องจ่ายเงินให้แก่โจทก์ตามสัญญาข้อ 3

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ขอให้โจทก์เจรจากับพันตำรวจเอกจำรัส ฟอลเล็ต บิดาโจทก์ทำการพิสูจน์ลายมือในพินัยกรรมในคดีที่จำเลยฟ้องขอแบ่งมรดก โดยสัญญาว่า ถ้าโจทก์เจรจาให้พันตำรวจเอกจำรัสยอมรับพิสูจน์ลายมือดังกล่าวได้ จำเลยจะให้เงินรางวัลแก่โจทก์ ๖๐,๐๐๐ บาท ในเมื่อคดีนั้นเสร็จลงและจำเลยได้รับส่วนแบ่งมรดก หรือถ้ามีการประนีประนอมยอมความก่อนศาลพิพากษา ก็จะจ่ายให้ ๓๐,๐๐๐ บาท ปรากฏตามสัญญาท้ายฟ้อง โจทก์ได้เจรจาจนพันตำรวจเอกจำรัสรับจะพิสูจน์ แต่คดีที่จำเลยฟ้องได้มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันเสียก่อน โดยจำเลยได้รับส่วนแบ่งมรดก ๓๕ % โจทก์ทวงถามเงินตามที่ตกลง จำเลยปฏิเสธ จึงขอให้ศาลบังคับจำเลยให้ชำระเงิน ๓๐,๐๐๐ บาทแก่โจทก์
จำเลยต่อสู้ว่า มิได้ตกลงกับโจทก์ตามที่ฟ้อง จำเลยเพียงแต่ตกลงกับพันตำรวจเอกจำรัสเท่านั้นว่า ถ้าพิสูจน์ลายมือในพินัยกรรมได้ว่าเป็นลายมือปลอม และเบิกความยืนยันต่อศาลจนศาลพิพากษาให้จำเลยชนะคดีแล้ว จำเลยจะสมนาคุณให้ ๖๐,๐๐๐ บาท ถ้าพิสูจน์ลายมือว่าปลอมแล้วแต่มีการประนีประนอมยอมความกันก็จะสมนาคุณให้ ๓๐,๐๐๐ บาท พันตำรวจเอกจำรัสยังมิได้พิสูจน์ ศาลก็ไกล่เกลี่ยให้ยอมความกัน จึงขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นเห็นว่า พันตำรวจเอกจำรัสยังไม่ได้พิสูจน์ลายมือตามทางวิชาการจึงไม่ถือว่าโจทก์ได้ทำการให้จำเลยเป็นผลสำเร็จตามสัญญา พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามสัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยนั้น ข้อ ๑ มีความว่าผู้ให้สัญญายอมให้ผู้ถือสัญญาจัดการวิ่งเต้นช่วยเหลือคดีมรดกของผู้ให้สัญญา ฯลฯ ข้อ ๒ เมื่อคดีมรดกของผู้ให้สัญญาได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ผู้ให้สัญญาได้รับเงินส่วนแบ่งในคดีมรดกนี้แล้วผู้ให้สัญญาต้องจ่ายเงิน ๖๐,๐๐๐ บาทให้แก่ผู้ถือสัญญา ฯลฯ ข้อ ๓ หากคดีมรดกนี้ได้มีการประนีประนอมยอมความลงก่อนศาลพิพากษา ผู้ให้สัญญายอมจ่ายเงินรางวัลให้แก่ผู้ถือสัญญาเพียง ๓๐,๐๐๐ บาท
เมื่อพิจารณาถึงรูปคดีแล้วก็จะเห็นว่าเจตนาของจำเลยต้องการให้ชนะคดีตามฟ้อง เมื่อชนะคดีตามฟ้องแล้วจำเลยก็ยินดีจ่ายเงินให้โจทก์ ๖๐,๐๐๐ บาท ถ้าคดีเสร็จโดยประนีประนอมยอมความโดยจำเลยได้รับส่วนแบ่ง จำเลยก็จะจ่ายเงินให้โจทก์ ๓๐,๐๐๐ บาท เมื่อจำเลยได้รับส่วนแบ่งสมความตั้งใจโดยประนีประนอมยอมความกัน จำเลยก็ควรจ่ายเงินให้โจทก์ตามที่ตกลงกัน นอกจากนี้ การที่มีการยอมความกันก็น่าจะเนื่องจากพันตำรวจเอกจำรัสยอมรับทำการพิสูจน์ลายมือด้วย และเห็นว่าตามผลงานโจทก์ ได้จัดการให้พันตำรวจเอกจำรัสทำการพิสูจน์ลายมือในพินัยกรรมสมความตั้งใจของจำเลยแล้ว แต่ได้มีการยอมความกันเสียก่อน โจทก์จึงมีสิทธิรับเงินรางวัลตามสัญญาข้อ ๓
พิพากษากลับให้จำเลยชำระเงิน ๓๐,๐๐๐ บาทให้โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ ๗ ๑/๒ ต่อปี นับตั้งแต่วันฟ้อง

Share