คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1474/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีร้องขัดทรัพย์ ในวันนัดสืบพยานผู้ร้องนัดแรก ผู้ร้องขอเลื่อนการพิจารณาโดยอ้างว่าตัวผู้ร้องซึ่งเป็นพยานด้วย ไปราชการต่างจังหวัดกับทนายความติดว่าความอีกศาลหนึ่ง เมื่อได้ความว่าการกำหนดวันนัด ผู้ร้องและทนายความมิได้มาศาลตกลงกำหนดวันนัดด้วย ดังนี้นับได้ว่ามีความจำเป็นพอสมควรที่ศาลจะอนุญาตให้เลื่อนการพิจารณาไปได้

ย่อยาว

คดีนี้ผู้ร้องขัดทรัพย์ยื่นคำร้องขอให้ปล่อยเรือนและรั้วที่โจทก์นำยึด

ศาลชั้นต้นกำหนดให้ผู้ร้องนำสืบก่อน ครั้นถึงวันนัด ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเลื่อนการพิจารณา อ้างว่าผู้ร้องต้องเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อปฏิบัติราชการ ส่วนทนายผู้ร้องติดว่าความที่ศาลอาญา โจทก์คัดค้านไม่ยอมให้เลื่อน แต่ไม่ได้อ้างเหตุที่ไม่ควรให้เลื่อน ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อน อ้างเหตุว่าทนายผู้ร้องไม่มาศาลในวันชี้สองสถาน และทราบวันนัดนานแล้ว แต่เพิ่งมาขอเลื่อนในวันนัด กับทั้งมีพยานผู้ร้องที่อาจนำสืบได้ในวันนัดไม่อนุญาตให้เลื่อน และถือว่าผู้ร้องไม่มีพยานนำสืบ กับสั่งงดพยานโจทก์ แล้ววินิจฉัยว่า ผู้ร้องมีหน้าที่นำสืบก่อน เมื่อผู้ร้องไม่มีพยานนำสืบให้สมข้ออ้าง ให้ยกคำร้องของผู้ร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เหตุที่ผู้ร้องขอเลื่อนมีความจำเป็นและเพิ่งขอเลื่อนครั้งแรกไม่เป็นการประวิงความ พิพากษาให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปความ

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่ผู้ร้องขอเลื่อนการพิจารณาโดยอ้างว่า ตัวผู้ร้องซึ่งถูกอ้างเป็นพยานไว้ด้วยต้องเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อปฏิบัติราชการ กับทนายความก็ติดว่าความคดีอาญาที่ศาลอาญาอีกประการหนึ่ง กับทั้งได้ความด้วยว่า ในการกำหนดวันนัดนี้ผู้ร้องและทนายมิได้มาศาลตกลงกำหนดวันนัดด้วย ดังนี้ เห็นว่านับได้ว่ามีความจำเป็นพอสมควรที่ศาลจะอนุญาตให้เลื่อนการพิจารณาไปได้ และได้ความตามท้องสำนวนด้วยว่า ผู้ร้องได้อ้างร้อยเอกเสรี สุทธิกุล เป็นพยานไว้ ซึ่งโดยปกติย่อมจะนำสืบที่ศาลเดียวกับผู้ร้อง แต่ในวันนัดวันนั้นยังมิได้จัดการให้มาศาลด้วย ดังนี้การที่จะให้เลื่อนการพิจารณาครั้งนี้ไปสืบผู้ร้องพร้อมกับร้อยเอกเสรีก็น่าจะเป็นการสมควรแก่ความยุติธรรมยิ่งขึ้น จึงชอบที่จะให้เลื่อนการพิจารณาไป

พิพากษายืน

Share