แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ความผิดฐานรับเด็กอายุต่ำกว่า13ปีบริบูรณ์เป็นลูกจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงาน(ฉบับที่12)ข้อ20ซึ่งออกตามความในข้อ2(3)แห่งประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่103นั้นโจทก์ต้องนำสืบให้เห็นว่าบุคคลที่เป็นนายจ้างรู้ว่าเด็กที่ตนรับเป็นลูกจ้างนั้นมีอายุต่ำกว่า13ปีบริบูรณ์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติโรงงานพ.ศ.2512มาตรา5,7,8,12,43,44พระราชบัญญัติโรงงาน(ฉบับที่2)พ.ศ.2518มาตรา5,11พระราชบัญญัติโรงงาน(ฉบับที่3)พ.ศ.2522มาตรา3,4กฎกระทรวงฉบับที่1(พ.ศ.2512)ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงานพ.ศ.2512ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงาน(ฉบับที่12)ลงวันที่18มกราคม2533ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่103ลงวันที่16มีนาคม2515ประมวลกฎหมายอาญามาตรา91ให้จำเลยหยุดประกอบกิจการโรงงาน
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติโรงงานพ.ศ.2512มาตรา12,44วรรคแรกพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองพ.ศ.2522มาตรา64ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงาน(ฉบับที่12)ลงวันที่18มกราคม2533ข้อ20ประกอบด้วยประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่103ลงวันที่16มีนาคม2515ข้อ1ข้อ8จำเลยกระทำผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา91ฐานประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้จำคุก6เดือนฐานให้ที่พักอาศัยซ่อนเร้นคนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองให้จำคุก1ปี6เดือนฐานรับเด็กอายุต่ำกว่าสิบสามปีบริบูรณ์เป็นลูกจ้างให้จำคุก3เดือนรวม3กระทงเป็นจำคุก2ปี3เดือนให้จำเลยหยุดประกอบกิจการโรงงานคำขอโจทก์นอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติโรงงานพ.ศ.2512มาตรา12,44วรรคแรกพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองพ.ศ.2522มาตรา64ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติโรงงานพ.ศ.2512มาตรา12,44วรรคแรกจำคุก6เดือนปรับ15,000บาทตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองพ.ศ.2522มาตรา64จำคุก1ปี6เดือนปรับ15,000บาทเรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา91เป็นจำคุก2ปีปรับ30,000บาทโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด2ปีไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา29,30ให้จำเลยหยุดการประกอบกิจการโรงงานข้อหาอื่นให้ยก
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า”พิเคราะห์แล้วมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานรับเด็กหญิงอายุต่ำกว่า13ปีบริบูรณ์เข้าทำงานอันเป็นการใช้แรงงานเด็กตามที่โจทก์ฟ้องหรือไม่เห็นว่าการที่จะมีความผิดฐานรับเด็กอายุต่ำกว่า13ปีบริบูรณ์เป็นลูกจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงาน(ฉบับที่12)ข้อ20ซึ่งออกตามความในข้อ2(3)แห่งประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่103ลงวันที่16มีนาคมพ.ศ.2515จะต้องพิจารณาได้ความว่าบุคคลที่เป็นนายจ้างรู้ว่าเด็กที่ตนรับเป็นลูกจ้างนั้นมีอายุต่ำกว่า13ปีบริบูรณ์ซึ่งข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องพิสูจน์ให้เห็นว่านายจ้างผู้รับเด็กเข้าทำงานรู้เช่นนั้นแต่สำหรับกรณีของโจทก์ได้ความเพียงว่าเด็กที่จำเลยรับเข้าทำงานเป็นผู้บอกว่าอายุ12ปีซึ่งก็จำวันเดือนปีเกิดของตนเองไม่ได้และไม่มีเอกสารใดมาแสดงนอกจากนี้ได้ความจากร้อยตำรวจตรี ศักดิ์สิทธิ์ พนักงานสอบสวนตอบคำถามค้านของทนายจำเลยว่าพยานไม่อาจทราบได้ว่าเด็กที่จำเลยรับเข้าทำงานนั้นจะอายุเกินกว่า13ปีหรือต่ำกว่า13ปีเนื่องจากเด็กมีรูปร่างใกล้เคียงกันเห็นว่าแม้เด็กจะอายุต่ำกว่า13ปีแต่โจทก์ก็ไม่ได้นำสืบพอให้เชื่อได้โดยมั่นคงว่าเป็นเช่นนั้นจริงซึ่งปัญหานี้จำเลยปฏิเสธตลอดมาว่าไม่ได้กระทำผิดพยานหลักฐานเพียงเท่าที่โจทก์นำสืบมาฟังไม่ได้ว่าจำเลยรู้ว่าเด็กที่จำเลยรับเป็นลูกจ้างนั้นอายุต่ำกว่า13ปีบริบูรณ์ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องในความผิดฐานนี้มาชอบแล้วฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน