แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดโดยประมาท จุดไฟเผาหญ้าในคอกเลี้ยงโคของจำเลย เป็นเหตุให้ไฟลุกลามไหม้สวนยางพันธุ์ดีของโจทก์เสียหายคำฟ้องของโจทก์ดังกล่าวเพียงพอที่จะทำให้จำเลยเข้าใจได้ดีแล้วว่าสวนยางพาราของโจทก์ตั้งอยู่ใกล้คอกโคของจำเลย และโจทก์ไม่จำเป็นต้องบรรยายฟ้องว่าโจทก์มีเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับที่ดินของโจทก์หรือไม่ ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจุดไฟเผาหญ้าในคอกเลี้ยงโคของจำเลยด้วยความประมาทมิได้ใช้ความระมัดระวังตรวจตราดูแลไฟในตอนที่แดดร้อนจัดสภาพดินมีความแห้งแล้ง ทำให้ไฟลุกลามเข้ามาในสวนยางพาราของโจทก์เป็นเหตุให้ต้นยางพาราพันธุ์ดีอายุประมาณ 6 ปี ของโจทก์ได้รับความเสียหาย จำนวน 90 ต้น โจทก์คิดค่าเสียหายต้นละ 300 บาทขอให้จำเลยชำระเงินจำนวน 27,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยจุดไฟเผาหญ้าในคอกโคเป็นเหตุให้ไฟไหม้ลุกลามสวนยางของโจทก์ โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องให้ทราบว่าสวนยางพันธุ์ดีของโจทก์ที่ถูกไฟไหม้ตั้งอยู่ที่ไหนและโจทก์มีเอกสารหลักฐานหรือหนังสือสำคัญเกี่ยวกับที่ดินที่ถูกไฟไหม้ว่าเป็นของโจทก์หรือไม่ จำเลยไม่สามารถเข้าใจและต่อสู้คดีได้จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 9,000 บาทพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีคงมีประเด็นที่จะวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยเพียงว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ ในข้อนี้จำเลยฎีกาว่าโจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่าจำเลยกระทำผิดโดยประมาท จุดไฟเผาหญ้าในคอกเลี้ยงโคของจำเลยเป็นเหตุให้ไฟลุกลามไหม้สวนยางพันธุ์ดีของโจทก์เสียหาย โดยมิได้บรรยายฟ้องให้ทราบว่าสวนยางของโจทก์ตั้งอยู่ที่ไหน และโจทก์มีเอกสารหลักฐานอะไรบ้างซึ่งแสดงให้เห็นว่าสวนยางพาราเป็นของโจทก์ เห็นว่า คำฟ้องของโจทก์ดังกล่าวเพียงพอที่จะทำให้จำเลยเข้าใจได้ดีแล้วว่าสวนยางพาราของโจทก์ตั้งอยู่ใกล้คอนโดของจำเลย และโจทก์ไม่จำเป็นต้องบรรยายฟ้องว่าโจทก์มีเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับที่ดินของโจทก์หรือไม่ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุมชอบแล้วฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.