แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้ที่พิพาทจะเป็นลำรางสาธารณะเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินชนิดทรัพย์สินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1304(2) แต่เมื่อโจทก์ครอบครองใช้สอยปลูกต้นผลไม้ในที่พิพาทอยู่ก่อนจำเลยและปลูกติดต่อกันหลายปีตลอดมาการที่จำเลยเอาเสาคอนกรีตไปปักลงในที่พิพาท เห็นได้ว่าเป็นการรบกวนสิทธิของโจทก์โจทก์ย่อมได้รับความเสียหายเป็นการละเมิดโจทก์มีสิทธิฟ้องห้ามมิให้จำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องรบกวนการครอบครองที่พิพาทได้
กรณีดังกล่าว แม้จำเลยอ้างว่าที่เอาเสาคอนกรีตไปปักเพื่อขุดลอกที่พิพาทและได้ขออนุญาตนายอำเภอแล้ว แต่เมื่อปรากฏว่านายอำเภอยังไม่มีคำสั่งอนุญาตทั้งนายอำเภอก็มิได้ดำเนินการให้โจทก์ออกจากที่พิพาทจึงไม่มีเหตุที่ทำให้จำเลยมีสิทธิดีกว่าโจทก์
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยบุกรุกที่ดินในเขตโฉนดของโจทก์แต่ทางพิจารณาปรากฏว่าที่ดินที่จำเลยบุกรุกอยู่นอกเขตโฉนดของโจทก์เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องไว้ด้วยว่าจำเลยบุกรุกเข้าไปปักหลักเขตเสาคอนกรีตในที่ดินที่โจทก์ครอบครองอยู่ประกอบกับแผนที่ท้ายฟ้องก็แสดงว่าที่ดินที่จำเลยบุกรุกอยู่ภายในเขตที่โจทก์ครอบครองศาลย่อมพิพากษาห้ามจำเลยและบริวารรบกวนการครอบครองที่พิพาทได้ ไม่เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็น
ย่อยาว
คดีสองสำนวนนี้รวมพิจารณาพิพากษา โจทก์ฟ้องทั้งสองสำนวนทำนองเดียวกันว่า จำเลยทั้งสองสำนวนกับพวกบุกรุกเข้ามาในที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่ดินของโจทก์และปักเสาคอนกรีต 8 ต้น เป็นการรบกวนสิทธิครอบครองของโจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา ให้จำเลยถอนเสาคอนกรีตและห้ามเกี่ยวข้องกับที่ดินของโจทก์อีกทั้งให้ใช้ค่าเสียหายให้โจทก์สำนวนละ 3,000 บาท
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ววินิจฉัยว่า บริเวณที่มีผู้เอาเสาคอนกรีตไปปักไว้เป็นลำรางสาธารณะ ไม่ใช่ที่ดินภายในเขตโฉนดของโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องในความผิดฐานบุกรุก สำหรับคดีแพ่ง คู่ความตกลงกันตามรายงานกระบวนพิจารณาว่าจะไม่ถือลำรางสาธารณะเป็นเขตโฉนดของตนทั้งโจทก์มิได้ครอบครองเป็นพิเศษ จะห้ามจำเลยมิให้เกี่ยวข้องไม่ได้ ส่วนเสาคอนกรีตก็ปรากฏว่าพนักงานศาลไปถอนออกหมดแล้วจึงไม่ต้องบังคับกันต่อไป พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ทั้งคดีส่วนอาญาและส่วนแพ่ง
โจทก์อุทธรณ์ทั้งสองสำนวน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้รับฟ้องคดีส่วนแพ่งของโจทก์ไว้ดำเนินการต่อไป
โจทก์ฎีกาขอให้รับฟ้องคดีส่วนอาญาของโจทก์ด้วย
ศาลฎีกาพิพากษาให้ยกฎีกาของโจทก์
จำเลยให้การว่า ที่ดินที่จำเลยเอาเสาคอนกรีตไปปักเป็นที่ดินสาธารณะในลำรางเพื่อขุดลอกลำรางในการใช้น้ำและใช้เรือขนผลไม้ในสวน โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ทั้งสองสำนวน
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับเป็นว่า ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องรบกวนการครอบครองที่พิพาทของโจทก์อีกต่อไป คำขอนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยทั้งสองสำนวนฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยทั้งสองสำนวนฎีกาว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์ เพราะโจทก์ไม่มีสิทธิครอบครองลำรางสาธารณะการที่จำเลยทั้งสองสำนวนเอาเสาคอนกรีตไปปักก็เพื่อขุดลอกลำรางสาธารณะที่ตื้นเขินนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า แม้ที่พิพาทจะเป็นลำรางสาธารณะ เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินชนิดทรัพย์สินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304(2) แต่โจทก์ได้ครอบครองใช้เป็นที่ปลูกต้นมะพร้าวจนได้ผลมาหลายปีแล้ว และได้จัดให้ผู้เช่าที่ดินของโจทก์เข้าทำประโยชน์และทำรั้วไม้ระแนงกั้นไว้ เมื่อโจทก์ครอบครองใช้สอยปลูกต้นผลไม้ในที่พิพาทอยู่ก่อนจำเลยทั้งสองสำนวนและปลูกอยู่ติดต่อกันตลอดมา การที่จำเลยเอาเสาคอนกรีตไปปักลงในที่พิพาทเช่นนี้เห็นได้ว่าเป็นการรบกวนสิทธิของโจทก์ โจทก์ย่อมได้รับความเสียหาย เป็นการละเมิด โจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยทั้งสองสำนวนที่ทำละเมิดได้ ข้อที่จำเลยทั้งสองสำนวนอ้างว่า ที่เอาเสาคอนกรีตไปปักเพื่อขุดลอกที่พิพาทและได้ขออนุญาตนายอำเภอกระทุ่งแบนแล้วนั้น ก็ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองสำนวนได้ปักเสาคอนกรีตลงก่อนขออนุญาตนายอำเภอ และนายอำเภอก็ยังไม่มีคำสั่งอนุญาต ทั้งขณะนั้นนายอำเภอก็มิได้ดำเนินการให้โจทก์ออกจากที่พิพาท จึงไม่เป็นเหตุให้จำเลยทั้งสองสำนวนมีสิทธิดีกว่าโจทก์ขึ้นมาได้
จำเลยทั้งสองสำนวนฎีกาว่า โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยทั้งสองสำนวนบุกรุกที่ดินในเขตโฉนดของโจทก์ แต่ตามทางพิจารณาปรากฏว่า ที่ดินที่จำเลยทั้งสองบุกรุกอยู่นอกเขตโฉนดของโจทก์ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่พิพากษามาเป็นการนอกคำขอนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ได้บรรยายฟ้องไว้ด้วยว่า จำเลยบุกรุกเข้าไปปักหลักเขตเสาคอนกรีตในที่ดินของโจทก์ครอบครองอยู่ ประกอบกับแผนที่สังเขปท้ายฟ้องซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องเป็นคำฟ้องด้วยก็ปรากฏว่า ที่ดินที่จำเลยทั้งสองสำนวนบุกรุก คือที่ดินหมายสีเขียวที่อยู่ภายในเส้นสีแดงที่โจทก์ครอบครอง เมื่อตามทางพิจารณาฟังได้ว่า โจทก์เป็นฝ่ายครอบครองด้วยการใช้สอยที่พิพาทเป็นที่ปลูกต้นผลไม้อยู่ก่อนดังกล่าว การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้องรบกวนการครอบครองที่พิพาทหาเป็นการนอกฟ้องนอกประเด็นไม่
โดยสรุปฎีกาของจำเลยทั้งสองสำนวนฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน