คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 312/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้จำเลยใช้เงิน ตามเช็คแก่โจทก์โดยฟังว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบจำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า ศาลฎีกาพิพากษาคดีส่วนอาญาเกี่ยวกับเช็คพิพาทว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา ดังนี้เมื่อปรากฏว่าศาลฎีกาวินิจฉัยใน คดีอาญาเพียงว่า จำเลยออกเช็คให้ อ. โดย อ. ทราบอยู่แล้วว่าจำเลยไม่มีเงินในขณะออกเช็ค แม้เช็คดังกล่าวมาตกอยู่แก่โจทก์จำเลยก็ไม่มี ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คศาลฎีกามิได้วินิจฉัยว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คจึงไม่มีประเด็นที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า จะต้องฟังข้อเท็จจริงตามคดีส่วนอาญาว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คหรือไม่ ศาลฎีกาย่อมพิพากษายกฎีกาจำเลย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินตามเช็ค เป็นเงิน 40,000 บาท

จำเลยให้การว่า โจทก์รับโอนเช็คโดยคบคิดกันฉ้อฉล และไม่สุจริต

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามฟ้อง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ศาลฎีกาวินิจฉัยไว้ในคดีส่วนอาญา “พฤติการณ์ตามรูปคดีน่าเชื่อว่า จำเลยออกเช็คลงวันที่ล่วงหน้าให้นายอุดม อุดมสันติสุข เป็นประกันการซื้อกิจการและหุ้นของบริษัทแร่อุดมจำกัด โดยมีข้อตกลงกันว่าถ้าสำรวจแร่แล้วปรากฏว่ามีแร่ จำเลยจึงจะซื้อ นายอุดมเองก็ทราบอยู่แล้วว่าจำเลยไม่มีเงินในขณะออกเช็ค จึงมีผลเท่ากับว่านายอุดมและจำเลยต่างไม่ได้มีเจตนาให้มีการใช้หนี้เงินตามเช็ค ดังนี้ แม้เช็คดังกล่าวจะไปตกอยู่แก่โจทก์และธนาคารปฏิเสธการใช้เงินก็ตาม จำเลยก็หามีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 ไม่” ตามคำวินิจฉัยดังกล่าวศาลฎีกามิได้วินิจฉัยว่า โจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็ค คดีจึงไม่มีประเด็นจะวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยว่า จะต้องฟังข้อเท็จจริงตามคดีส่วนอาญาว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คหรือไม่

พิพากษายกฎีกาจำเลย

Share