คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1468/2527

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

สัญญาเช่าตู้ใส่สินค้าระบุบริเวณที่ตั้งตู้ก็เพื่อให้ทราบว่าเช่าตู้ใบไหน ตั้งอยู่ที่ใด หาใช่เป็นการเช่าสถานที่ตั้งตู้ไม่สถานที่ตั้งตู้คงอยู่ในครอบครองของจำเลยผู้ให้เช่า จำเลยมีอำนาจเข้าไปหรือใช้ให้ผู้อื่นเข้าไปในสถานที่ตั้งตู้โดยไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก และการเคลื่อนย้ายตู้ใส่สินค้าซึ่งเป็นสังหาริมทรัพย์ ก็ไม่อาจเป็นความผิดฐานบุกรุกได้

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว พิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ทางไต่สวนมูลฟ้อง โจทก์นำสืบว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2521 โจทก์ทำสัญญาเช่าตู้ใส่สินค้า 3 ตู้ ซึ่งตั้งอยู่ชั้นล่างของศูนย์การค้าอินทราจากจำเลยที่ 1 และโจทก์ครอบครองสถานที่บริเวณที่ตั้งตู้สินค้าที่เช่าด้วย ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม 2524 เวลาประมาณ20 นาฬิกา ถึงวันที่ 28 ตุลาคม 2524 เวลาประมาณ 8 นาฬิกา จำเลยทั้งสองกับพวกขนย้ายตู้ใส่สินค้าที่ให้โจทก์เช่าไป และมีผู้อื่นมาตั้งตู้ขายสินค้าแทนเป็นการรบกวนการครอบครองสถานที่เช่าของโจทก์

พิเคราะห์แล้ว สัญญาเช่าตู้ใส่สินค้าที่โจทก์ทำกับจำเลยที่ 1 ตามสำเนาเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 1 ในข้อ 1 นั้น ระบุไว้เพียงว่าโจทก์และ จำเลยที่ 1 ตกลงเช่าตู้ใส่สินค้ากันโดยมิได้กล่าวถึงการเช่าสถานที่ตั้งตู้นั้นด้วยจึงต้องถือว่าเป็นการเช่าตู้ใส่สินค้าอย่างเดียวเท่านั้น แม้สัญญาเช่าจะระบุบริเวณที่ตั้งตู้ใส่สินค้าก็เพียงเพื่อให้ทราบว่าตู้ที่เช่ากันนั้นเป็นตู้ใบไหนตั้งอยู่ที่ใด หาใช่เป็นการเช่าสถานที่ตั้งตู้ใส่สินค้าดังที่โจทก์ฎีกามาไม่ สถานที่ตั้งตู้ใส่สินค้าที่โจทก์เช่าจึงคงอยู่ในความครอบครองของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ย่อมมีอำนาจที่จะเข้าไปหรือใช้ให้ผู้อื่นเข้าไปในสถานที่ดังกล่าวได้โดยไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก และการเคลื่อนย้ายตู้ใส่สินค้าซึ่งเป็นสังหาริมทรัพย์ก็ไม่อาจเป็นความผิดฐานบุกรุกได้ดังที่โจทก์ฟ้อง ฎีกาข้ออื่นของโจทก์จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัย ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องของโจทก์มานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share