แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ในวันสืบพยานโจทก์ จำเลยยอมรับว่าจำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คตามฟ้อง โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบและธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน แต่จำเลยก็มิได้ให้การรับสารภาพตามฟ้องดังนี้จะถือว่าจำเลยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คหาได้ไม่ เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบให้ได้ความดังกล่าว เมื่อโจทก์มิได้สืบพยาน จึงลงโทษจำเลยไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ในวันนัดสืบพยานโจทก์ศาลชั้นต้นสอบข้อเท็จจริงแล้วคู่ความรับกันว่าจำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คตามฟ้องทั้งสี่ฉบับและโจทก์เป็นผู้ทรงโดยชอบ เช็คทั้งสี่ฉบับธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์ แต่จำเลยขอสืบพยาน ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยตามเช็คฉบับแรก และฉบับที่สองฉบับละ 10 เดือน ฉบับที่สามและฉบับที่สี่ ฉบับละ 1 ปี รวมจำคุกจำเลย 3 ปี 8 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาทั้งสี่สำนวน
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยว่า จำเลยมีความผิดตามที่โจทก์ฟ้องหรือไม่ เห็นว่า จำเลยให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์ทั้งสี่สำนวน แม้ในวันสืบพยานโจทก์ จำเลยจะยอมรับว่าจำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คทั้งสี่ฉบับ และโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบ โจทก์เรียกเก็บเงินตามเช็คทั้งสี่ฉบับไม่ได้ และธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินก็ตามแต่จำเลยก็มิได้ให้การรับสารภาพตามที่โจทก์ฟ้อง ดังนี้จะถือว่าจำเลยออกเช็คโดยมีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คดังที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยมาหาได้ไม่เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบให้ได้ความเช่นนี้ แต่เมื่อศาลชั้นต้นงดสืบพยานโจทก์ โจทก์มิได้แถลงขอสืบพยานหรือโต้แย้งคัดค้านประการใด แสดงว่าโจทก์ไม่ติดใจสืบพยาน ส่วนจำเลยขอสืบพยานโดยนำสืบว่า จำเลยออกเช็คค้ำประกันให้ผู้มีชื่อไว้มิได้มีเจตนาออกเพื่อชำระหนี้ จำเลยได้ชำระหนี้ที่ค้ำประกันนั้นเสร็จสิ้นแล้ว เมื่อจำเลยต่อสู้เช่นนี้โดยโจทก์มิได้สืบพยานแม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ตามที่จำเลยแถลงรับก็ตาม คดีก็ฟังลงโทษจำเลยไม่ได้ เพราะการที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คที่จำเลยลงลายมือชื่อสั่งจ่ายนั้น หาใช่จำเลยจะมีความผิดเสมอไปไม่ เช็คที่จำเลยสั่งจ่ายอาจจะเป็นเช็คค้ำประกันหนี้มิได้มีเจตนาออกเช็คเพื่อชำระหนี้ หรือเป็นเช็คที่ไม่มีมูลหนี้ต่อกัน หรือมูลหนี้ตามเช็คระงับไปแล้วก็ได้ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ทั้งสี่สำนวน