คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1463/2482

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กฎหมายให้อำนาจกรมการอำเภอยึดและขายที่นาเพื่อเอาเงินชำระอากรค่านาตาม ม.13 นั้น หมายความรวมทั้งการให้อำนาจทำนิติกรรมการโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ซื้อด้วย ในกรณีเช่นนี้จะบังคับเจ้าของนาไปทำการโอนไม่ได้.

ย่อยาว

ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยเป็นหนี้ภาษีอากรค่านา กรมการอำเภอจึงได้ยึดนาของจำเลยขายทอดตลาดเพื่อเอกเงินชำระค่าภาษี ต่อมากรมการอำเภอได้เรียกให้จำเลยไปทำหนังสือสัญญาโอนสัญญาโอนกรรมสิทธิ์ ให้ผู้ซื้อจำเลยปฏิเสธ โจทก์จึงขอให้ศาลบังคับ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า พ.ร.บ.เก็บเงินค่านา ร.ศ.๑๑๙ มาตรา ๑๓ ให้อำนาจเจ้าพนักงานยึดทรัพย์สมบัติของผู้ค้างอากรค่านาขายทอดตลาดได้ทีเดียว เจ้าพนักงานจึงมีอำนาจโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่ขายนั้นแทนเจ้าของด้วย จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เมื่อกฎหมายให้อำนาจและสิทธิที่คณะกรมการอำเภอจะยึดที่นานั้นขายทอดตลาดแล้ว เจ้าของนาก็ย่อมมีหน้าที่จะต้องไปทำสัญญาโอนขายจึงพิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นบังคับจำเลยตามฟ้อง.
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่ากรมการอำเภออาศัยสิทธิ์ยึดและขายนารายพิพาทของจำเลยตาม พ.ร.บ.เก็บอากรค่านา
ร.ศ.๑๑๙ มาตรา ๑๓ การที่กฎหมายให้อำนาจขายที่นาได้ก็ต้องหมายความรวมถึงการให้มีอำนาจสั่งทำหลักฐานแสดงการโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ผู้ซื้อด้วย การบังคับจำเลยไปทำการโอนนั้นไม่มีกฎหมายใดสนับสนุนและจำเลยมิใช่ผู้ทำนิติกรรมขาย จึงพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีตามศาลชั้นต้น

Share