แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
แม้จำเลยจะนำรถยนต์กระบะบรรทุกส่วนบุคคลมาประกอบการขนส่งไม่ประจำทางเรียกเก็บเงินเพื่อสินจ้าง แต่โจทก์มิได้นำสืบว่ารถคันดังกล่าวมีน้ำหนักรถเท่าใด จึงฟังไม่ได้ว่ารถยนต์ส่วนบุคคลคันที่จำเลยขับเป็นรถที่มีน้ำหนักเกินกว่าหนึ่งพันหกร้อยกิโลกรัมรถคันดังกล่าวจึงเป็นรถที่ไม่อยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 การกระทำของจำเลยย่อมไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 23 ประกอบมาตรา 126
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกพ.ศ. 2522 มาตรา 23, 126 จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522มาตรา 23, 126 ปรับ 20,000 บาท จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นฟังได้ว่า ในวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง จำเลยขับรถยนต์กระบะบรรทุกซึ่งเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลคันหมายเลขทะเบียน น-3593 นครพนม มีผู้โดยสาร 8 คน จากอำเภอศรีสงครามไปตามถนนนครพนม-ท่าอุเทนมุ่งหน้าไปอำเภอเมืองนครพนม ถึงด่านตรวจรถยนต์บ้านท่าควายเจ้าพนักงานของสำนักงานขนส่งจังหวัดนครพนมจับกุมจำเลยในข้อหาประกอบการขนส่งไม่ประจำทางโดยไม่ได้รับอนุญาต มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่
พิเคราะห์แล้ว พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 5ซึ่งแก้ไขโดยพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2523มาตรา 4 บัญญัติว่า “พระราชบัญญัตินี้มิให้ใช้บังคับแก่
(1) การขนส่งโดยรถยนต์ทหารตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ทหาร
(2) การขนส่งโดยรถยนต์รับจ้างที่บรรทุกผู้โดยสารไม่เกินเจ็ดคน รถยนต์รับจ้างระหว่างจังหวัดที่บรรทุกผู้โดยสารไม่เกินเจ็ดคน รถยนต์บริการที่บรรทุกผู้โดยสารไม่เกินเจ็ดคน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินสิบสองคน รถยนต์ส่วนบุคคลที่มีน้ำหนักรถไม่เกินหนึ่งพันหกร้อยกิโลกรัม รถยนต์สามล้อ รถจักรยานยนต์ และรถแทร็กเตอร์ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์
(3) การขนส่งตามที่กำหนดในกฎกระทรวง”
ข้อเท็จจริงได้ความว่า รถยนต์คันที่จำเลยขับหมายเลขทะเบียนน-3593 นครพนม ตามภาพถ่ายหมาย จ.6 เป็นรถยนต์กระบะบรรทุกยี่ห้อนิสสันดีเซล แต่โจทก์มิได้นำสืบว่า รถคันดังกล่าวมีน้ำหนักรถเท่าใด จึงฟังไม่ได้ว่ามีน้ำหนักรถเกินกว่าหนึ่งพันหกร้อยกิโลกรัมอันจะเป็นความผิดดังโจทก์ฟ้อง ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่ารถยนต์ส่วนบุคคลคันที่จำเลยขับเป็นรถที่มีน้ำหนักเกินกว่าหนึ่งพันหกร้อยกิโลกรัม รถคันดังกล่าวจึงเป็นรถที่ไม่อยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 แม้จำเลยจะนำรถคันดังกล่าวมาประกอบการขนส่งไม่ประจำทางเรียกเก็บเงินเพื่อสินจ้างก็ตาม การกระทำของจำเลยก็ไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 23 ประกอบด้วยมาตรา 126 ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน