แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดของลูกหนี้ตามคำพิพากษานั้นไม่ใช่หน้าที่ของโจทก์หรือผู้แทนโจทก์ เพราะเป็นเรื่องอยู่ในหน้าที่ของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะทำการขายตามประกาศ โดยใช้ดุลพินิจในการขายเพื่อให้ได้ราคาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉะนั้นการขายที่ล่าช้าไปกว่ากำหนดตามประกาศไปบ้าง ย่อมจะปรับให้เป็นความผิดแก่โจทก์ไม่ได้ และเมื่อไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานได้ทำการขายผิดระเบียบแล้ว จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ไม่มีสิทธิที่จะขอให้ศาลสั่งทำการขายใหม่ได้
ย่อยาว
คดีนี้ มูลเดิมเนื่องมาจากจำเลยไม่ชำระหนี้ไถ่ถอนการจำนองให้โจทก์ตามคำพิพากษาและคำบังคับของศาล โจทก์จึงนำยึดที่ดินที่จำเลยจำนองไว้กับโจทก์เพื่อขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องว่าที่ดินที่ยึดถูกขายทอดตลาดไปแล้วในราคาต่ำและขายล่วงเลยเวลาประกาศเป็นการมิชอบ ขอให้ศาลสั่งว่าการขายทอดตลาดรายนี้เป็นโมฆะ และทำการขายใหม่
โจทก์คัดค้านว่าซื้อโดยสุจริตและชอบด้วยกฎหมาย
ศาลชั้นต้นเห็นว่ายังไม่มีเหตุอันจะทำให้ถึงแก่มีการขายทอดตลาดใหม่ ให้ยกคำร้องของจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ในเอกสารหมาย ก. ปรากฏว่าผู้แทนโจทก์กลับจากศาลแพ่งมานำขายเวลา 10.00 น.เศษเท่าใดไม่ปรากฏ และในเอกสารหมาย ข. ปรากฏว่าผู้แทนโจทก์กลับมากองหมายเมื่อ 10.05 น. ฟังได้ว่าเจ้าพนักงานได้เริ่มทำการขายแต่เวลา 10.15 น. ช้ากว่ากำหนดตามประกาศไป 45 นาที เห็นว่าการขายทอดตลาดไม่ใช่หน้าที่ของโจทก์หรือผู้แทนโจทก์ ฉะนั้น การขายที่ล่าช้าไปกว่ากำหนดตามประกาศ จะปรับให้เป็นความผิดแก่โจทก์ย่อมไม่ได้ เป็นเรื่องอยู่ในหน้าที่ของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะทำการขายตามประกาศโดยใช้ดุลพินิจในการขายเพื่อให้ได้ราคาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้การที่ขายล่าช้าไป 45 นาทีนั้น เมื่อได้พิจารณาประกอบกับข้อที่ปรากฏว่าขณะนั้นมีคนฟังการขาย 8 คน แม้จะมีผู้สู้ราคาเพียง 4 คนก็ตาม ก็ไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานได้ทำการขายผิดระเบียบแต่อย่างใดทั้งจำเลยก็มิได้ไปดูแลในการขาย แสดงว่าไม่ระมัดระวังผลประโยชน์ของตน ส่วนในเรื่องราคาที่ดินที่ขายที่จำเลยอ้างว่าต่ำไปนั้นจำเลยก็เพียงแต่กล่าวมาในคำร้องเท่านั้น มิได้นำสืบให้เห็นว่าราคาที่ดินที่ขายทอดตลาดไปนั้นมีราคาแท้จริงไร่ละเท่าใด ในอันที่จะเปรียบเทียบกับราคาที่เจ้าพนักงานขายว่าต่ำไปมากน้อยเท่าใดหรือไม่ ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน