คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1458/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาจ้างว่าความ ซึ่งมีใจความว่า จำเลยจ้างโจทก์ให้ว่าความสองสำนวนค่าจ้าง 750,000 บาท ชำระเมื่อศาลฎีกาพิพากษาให้จำเลยชนะ ถ้าจำเลยแพ้ จำเลยไม่ต้องชำระค่าจ้างนี้ ถ้าจำเลยจะต้องเสียค่าไถ่ถอนที่ดินและค่าใช้จ่ายต่างๆ เกี่ยวกับคดีเท่าใด จำเลยลดเงินนี้หนึ่งในสามจากค่าจ้างได้ สัญญานี้ไม่ใช่สัญญาเข้าเป็นทนายว่าต่างแก้ต่างโดยวิธีสัญญาแบ่งเอาส่วนจากทรัพย์สินที่เป็นมูลพิพาท อันจะพึงได้แก่ลูกความ จึงไม่ขัดกับพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ.2477มาตรา 12(2)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องตามสัญญาจ้างว่าความซึ่งมีข้อความว่า จำเลยจ้างโจทก์ว่าความสองสำนวน ค่าจ้าง 750,000 บาท ถ้าจำเลยต้องเสียค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับคดี ให้เอามาหักจากเงินค่าจ้างนี้หนึ่งในสาม ถ้าจำเลยแพ้ความ ไม่ต้องชำระค่าจ้าง โจทก์ฟ้องเรียกเงิน 500,000 บาท โดยคิดหักค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับคดีของจำเลยออกแล้ว

จำเลยให้การต่อสู้ไว้ข้อหนึ่งว่า สัญญาดังกล่าวเป็นโมฆะเพราะขัดกับพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2477 มาตรา 12(2)

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้โจทก์ชนะเต็มตามฟ้อง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ค่าจ้างว่าความกำหนดไว้ 750,000 บาท เป็นจำนวนแน่นอน ข้อที่ยอมให้เอาค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มาหักออกจากเงินจำนวนนี้ได้นั้น ก็เป็นข้อที่ให้คุณแก่จำเลย ตามสัญญานี้จะถือว่าโจทก์เข้าเป็นทนายว่าต่างแก้ต่างโดยวิธีสัญญาแบ่งเอาส่วนจากทรัพย์สินที่เป็นมูลพิพาทอันจะพึงได้แก่ลูกความหาได้ไม่ สัญญาจึงไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2477 มาตรา 12(2)

พิพากษายืน

Share