แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นจำคุกจำเลยในคดีการพนัน 3 เดือน ปรับ 1,500 บาท รอการลงโทษจำคุกไว้ 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุก 1 เดือน 15 วัน ปรับ 1,500 บาท ไม่รอการลงโทษ แต่ให้ลงโทษกักขังแทนโทษจำคุก 1 เดือน 15 วัน ปรับ 1,500 บาท จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษโดยผู้พิพากษาผู้พิจารณาในศาลชั้นต้นเห็นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดและอนุญาตให้ฎีกา ศาลฎีกาพิพากษาแก้ ให้รอการลงโทษจำคุกได้
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนันฯ มาตรา 4, 5, 10, 12, 15 จำคุก 3 เดือนปรับ 1,500 บาท โทษจำคุกรอการลงโทษไว้ 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ จำคุก 1 เดือน 15 วัน ปรับ 1,500 บาท ไม่รอการลงโทษ แต่ให้ลงโทษกักขังแทนโทษจำคุก 1 เดือน 15 วัน ปรับ1,500 บาท จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษ โดยผู้พิพากษาผู้พิจารณาในศาลชั้นต้นเห็นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดและอนุญาตให้ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกมาก่อนจำเลยเป็นหญิงหม้าย สามีจำเลยถึงแก่กรรมไปแล้ว จำเลยมีบุตรซึ่งต้องเลี้ยงดู6 คนเป็นหญิง 5 คน ชาย 1 คน เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยและวิทยาลัย เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาและประถมศึกษาก็มี และคนที่ 6 เรียนอยู่ชั้นอนุบาล ความผิดของจำเลยในคดีนี้ก็เป็นเพียงเสมียนเขียนโพยเห็นว่าประวัติของจำเลยและสภาพความผิด สมควรกำหนดโทษแต่รอการลงโทษไว้เพื่อให้โอกาสกลับตัวในระยะเวลาที่ศาลกำหนด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ฎีกาจำเลยฟังขึ้น
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่าไม่เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นโทษกักขังตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 23 แต่ให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์”