คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1447/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยกับโจทก์ร่วมเข้าหุ้นทำการก่อสร้างโรงเรียนร่วมกัน จำเลยพาพวกซึ่งมีอาวุธปืนติดตัวไปขู่เข็ญให้โจทก์ร่วมคิดบัญชีการเงินเกี่ยวกับการก่อสร้างโรงเรียน โจทก์ร่วมไม่ยอมคิดบัญชีประกอบกับขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามา จำเลยกับพวกจึงบังคับให้โจทก์ร่วมคิดบัญชีไม่สำเร็จ เช่นนี้การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานพยายามกรรโชก เพราะจำเลยไม่มีทางได้ประโยชน์ในทางทรัพย์สินโดยมิชอบแต่อย่างใด แต่การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามกระทำผิดต่อเสรีภาพตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 วรรคสอง ประกอบมาตรา 80, 83เพราะจำเลยมีเจตนาที่จะทำให้โจทก์ร่วมกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตจนยอมคิดบัญชีให้ และจำเลยได้กระทำไปโดยตลอดแล้วเพื่อให้โจทก์ร่วมกลัวและปฏิบัติตามความประสงค์ของจำเลย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกอีก 3 คนซึ่งแต่งกายเป็นทหารมีปืนเป็นอาวุธเข้าไปในร้านค้าของผู้เสียหายแล้วบังคับให้ผู้เสียหายคิดบัญชีการก่อสร้างโรงเรียนวัดดอนยอให้เสร็จในวันนั้น เพื่อจำเลยจะได้รับส่วนแบ่งอันเป็นประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน จำเลยกับพวกขู่เข็ญจะทำอันตรายต่อชีวิต และใช้ปืนขู่จะยิงผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายไม่กลัวและจำเลยเห็นเจ้าพนักงานตำรวจเข้าไปในร้าน การกระทำของจำเลยจึงไม่บรรลุผล ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 83, 309, 337, 362, 364, 365

จำเลยให้การปฏิเสธ

นายสมบุญ เกตุแก้ว ผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลอนุญาต

ศาลชั้นต้นเห็นว่า การกระทำของจำเลยมีเหตุผลสมควร และไม่มีเจตนาทุจริต พิพากษายกฟ้อง

โจทก์และโจทก์ร่วมอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกหรือฐานกรรโชก แต่เป็นความผิดฐานพยายามกระทำผิดต่อเสรีภาพพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 ประกอบด้วยมาตรา 80, 83 จำคุก8 เดือน ปรับ 1,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ตามมาตรา 56มีกำหนด 1 ปี นอกจากที่แก้ให้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์และจำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยขู่เข็ญให้ผู้เสียหายคิดบัญชีซึ่งผู้เสียหายกับจำเลยเป็นหุ้นส่วนกัน ไม่มีทางที่จะเห็นได้ว่าจำเลยจะได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินแต่อย่างใด หากจะได้ก็เพียงแต่สิทธิในฐานที่เป็นหุ้นส่วนกันเท่านั้น และการคิดบัญชีกันนั้นอาจเป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายจะต้องขาดประโยชน์หรือทรัพย์สินก็ได้ จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานพยายามกรรโชก

ส่วนความผิดต่อเสรีภาพนั้น จำเลยกับพวกมีอาวุธปืนเข้าไปในร้านขายยาของผู้เสียหายพูดจะข่มขู่ให้ผู้เสียหายคิดบัญชีการเงินโดยขู่ว่าถ้าไม่คิดจะเกิดเรื่อง แสดงว่าจำเลยมีเจตนาที่จะทำให้ผู้เสียหายกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตจนยอมคิดบัญชีให้ จำเลยได้กระทำไปโดยตลอดแล้วเพื่อให้ผู้เสียหายกลัว และกระทำตามความประสงค์ของจำเลย เมื่อการกระทำของจำเลยไม่บรรลุผล จะด้วยเหตุเพราะผู้เสียหายไม่กลัว หรือเพราะเจ้าพนักงานตำรวจเข้ามาขัดขวางหรือด้วยเหตุใดก็ตาม การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดฐานพยายามกระทำผิดต่อเสรีภาพตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 วรรค 2ประกอบมาตรา 80, 83 แล้ว

พิพากษายืน

Share