คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1447/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ไม่ยอมขายสิ่งของที่คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควรกำหนดราคาไว้อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร 2490 นั้น สิ่งของที่ห้ามค้ากำไรเกินควรซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดคือสิ่งของที่มีผู้ขอซื้อไม่เกินสมควรแก่การใช้ แต่ผู้ขายไม่ยอมขายโดยไม่มีเหตุผลอันควรเท่านั้น และย่อมริบได้เฉพาะสิ่งของที่ไม่ยอมขายดังกล่าวเท่านั้น

ย่อยาว

จำเลยที่ ๑ เป็นกรรมการของบริษัทอั้งตงอาวจำกัดระหว่างเกิดคดีขึ้นนี้ จำเลยที่ ๑ ทำหน้าที่ผู้จัดการบริษัท จำเลยที่ ๒ เป็นเสมียนมีหน้าที่จัดการและจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงของบริษัท เนื่องจากมีการขายน้ำมันเบ็นซินเกินราคา คณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควรส่วนจังหวัด ได้ออกประกาศให้ขายน้ำมันลิตรละ ๒ บาท บริษัทมีน้ำมันอยู่ ๒๙๔ ปีบ จำเลยทั้ง ๒ ไม่ยอมขายน้ำมันเบ็นซินให้แก่พวกคนขับรถยนต์ที่มาขอซื้อ และโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้ง ๒ ผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๒๑ จำคุก จำเลยคนละ ๑ เดือน ปรับคนละ ๕๐๐ บาทโทษจำคุกให้รอการลงอาญาไว้ น้ำมันเบ็นซินของกลางให้ริบ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาในข้อกฎหมายว่า ศาลจะควรริบของกลางไม่ได้
ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่า สิ่งของคือ น้ำมันเบนซืนที่ห้ามค้ากำไรเกินควร ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดในคดีเรื่องนี้ คือ น้ำมันเบ็นซินที่มีผู้มาขอซื้อไม่เกินสมควรแก่การใช้แต่จำเลยไม่ยอมขายโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรเท่านั้น คดีนี้ปรากฎว่ามีผู้มาขอซื้อ ๓ ราย ๕ ปีบ ด้วยกัน จำเลยไม่ยอมขาย น้ำมันเบนซิน ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดมีจำนวนรวม ๕ ปีบด้วยกัน
จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า ให้ริบน้ำมันเบนซินของกลาง ๕ ปีบ ให้คืนน้ำมันเบนซิน ๒๘๙ ปีบให้แก่บริษัทอั้งตังอาวไป นอกจากนี้คงยืน

Share