แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ผู้ต้องหาที่ 5 ถูกธนาคารแห่งประเทศไทยร้องทุกข์กล่าวโทษว่าร่วมกับพวกยักยอกทรัพย์ของธนาคารก. การห้ามมิให้ผู้ต้องหาที่ 5 ออกนอกราชอาณาจักรเป็นขั้นตอนและวิธีการที่จะได้ตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติ การดำเนินการดังกล่าวจึงไม่เป็นการริดรอนสิทธิเสรีภาพของผู้ต้องหาที่ 5 และคำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวเป็นการสั่งโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ พ.ศ. 2505 มาตรา 46 ทศ วรรคสี่ คำสั่งของศาลชั้นต้นจึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ นายเอกชัย อธิคมนันทะ นางพจณีย์ ชลลัมพี นางสาวสุนันทาหาญวรเกียรติ และนายพิเศษ พานิชสมบัติ ผู้ต้องหาออกนอกราชอาณาจักรตามพระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ พ.ศ. 2505 มาตรา 46 ทศ และศาลชั้นต้นมีคำสั่งห้ามบุคคลดังกล่าวออกนอกราชอาณาจักรจนกว่าคดีถึงที่สุด ต่อมานางสาวสุนันทา หาญวรเกียรติ ผู้ต้องหาที่ 5 ยื่นคำร้องขออนุญาตเดินทางออกนอกราชอาณาจักรและธนาคารแห่งประเทศไทยยื่นคำคัดค้าน
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ต้องหาที่ 5 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ต้องหาที่ 5 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว มีปัญหาชั้นฎีกาว่า มีเหตุสมควรอนุญาตให้ผู้ต้องหาที่ 5 ออกนอกราชอาณาจักรหรือไม่ เห็นว่า ผู้ต้องหาที่ 5 ถูกธนาคารแห่งประเทศไทยร้องทุกข์กล่าวโทษว่าร่วมกับพวกยักยอกทรัพย์ของธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชยการ จำกัด (มหาชน) เฉพาะที่ผู้ต้องหาที่ 5 ถูกฟ้องเป็นจำเลยอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอาญากรุงเทพใต้ จำนวน 2 คดี มูลค่าความเสียหายประมาณ 2,000 ล้านบาท และมีการขยายผลเพื่อดำเนินคดีแก่ผู้ต้องหาที่ 5 อีกหลายคดีรวมความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นเงินหลายหมื่นล้านบาท เป็นเหตุให้ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) ต้องปิดกิจการลงในที่สุด กรณีดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความล่มสลายของสถาบันการเงินอื่นและระบบเศรษฐกิจของประเทศหลังเกิดเหตุแล้วธนาคารแห่งประเทศไทยได้ติดตามอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาที่ 5เพื่อนำมาชดเชยความเสียหาย ปรากฏว่าทรัพย์สินของผู้ต้องหาที่ 5 ที่ติดตามอายัดได้มีเพียงเงินฝากในสถาบันการเงินจำนวน 2,599,052.40 บาท หุ้นในบริษัทต่าง ๆ จำนวน 9,584,675 หุ้น ที่ดินโฉนดเลขที่ 18159 อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ เมื่อเทียบกับความเสียหายแล้ว ทรัพย์สินดังกล่าวถือว่าเป็นจำนวนเล็กน้อยไม่อาจทดแทนความเสียหายที่ผู้ต้องหาที่ 5 กับพวกก่อให้เกิดขึ้นได้ผู้ต้องหาที่ 5 เป็นน้องภริยาของนายราเกซ สักเสนา ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีทุจริตยักยอกทรัพย์ของธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) นายราเกซได้หลบหนีคดีไปอยู่ที่ประเทศแคนาดา การอนุญาตให้ผู้ต้องหาที่ 5 ออกนอกราชอาณาจักรอาจเป็นช่องทางให้ผู้ต้องหาที่ 5 หลบหนีคดีเช่นเดียวกับนายราเกซญาติของผู้ต้องหาที่ 5 ได้ ผู้ต้องหาที่ 5 อ้างเหตุในคำร้องที่ขออนุญาตออกนอกราชอาณาจักรก็เพื่อไปเป็นพยานให้นายราเกซต่อศาลสูงแห่งมลรัฐบริติช โคลัมเบีย ประเทศแคนาดา ในคดีที่นายราเกซถูกฟ้องในข้อหาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งทางการไทยได้ขอตัวนายราเกซมาดำเนินคดีในประเทศไทย ตามพฤติการณ์ดังกล่าวไม่มีเหตุอันสมควรที่จะอนุญาตให้ผู้ต้องหาที่ 5 ออกนอกราชอาณาจักร ตามคำร้องของผู้ต้องหาที่ 5 ได้ ที่ผู้ต้องหาที่ 5 อ้างว่าคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ห้ามมิให้ผู้ต้องหาที่ 5 ออกนอกราชอาณาจักร ทำให้ผู้ต้องหาที่ 5 ถูกริดรอนสิทธิเสรีภาพตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เห็นว่า ผู้ต้องหาที่ 5 ถูกกล่าวหาว่าร่วมกับพวกยักยอกทรัพย์ของธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) การห้ามมิให้ผู้ต้องหาที่ 5 ออกนอกราชอาณาจักร เป็นขั้นตอนและวิธีการที่จะได้ตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติ การดำเนินการดังกล่าวจึงไม่เป็นการริดรอนสิทธิเสรีภาพของผู้ต้องหาที่ 5 และคำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวเป็นการสั่งโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ พ.ศ. 2505 มาตรา 46 ทศ วรรคสี่ คำสั่งของศาลชั้นต้นจึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของผู้ต้องหาที่ 5 ทุกข้อฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน