แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องที่กล่าวว่า ‘เมื่อวันใดไม่ปรากฏ ระหว่างเดือนกรกฎาคมกับสิงหาคม 2490 เวลากลางวันจำเลยได้กระทำผิด ฯลฯ’ ดังนี้ถือว่า ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดหลายกระทงให้รวมกระทงลงโทษ จำคุก 3 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยมีผิดกระทงเดียวลงโทษจำคุก 2 ปี เป็นแก้ไขมาก
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีหน้าที่เป็นผู้บังคับเรือนจำทหารบกลำปาง ได้เรียกและรับเงินจากผู้ต้องขังหลายราย ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 4 ปี โดยลดโทษ 1 ใน 3 แล้ว
ศาลอาญากลางฟังว่า จำเลยเรียกและรับเงินจากพลทหารแก้วไว้เป็นของน้ำใจจริง พิพากษาแก้ให้จำคุก 2 ปี ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 137 ที่แก้ไขแล้ว ข้อหาอื่นให้ยก
จำเลยฎีกา
ฎีกาของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมายข้อเดียวว่า ตามฟ้องกล่าวว่า “เมื่อวันใดไม่ปรากฏ ระหว่างเดือนกรกฎาคม กับ สิงหาคม 2490 เวลากลางวัน จำเลยด้วยตนเองและใช้พลทหารจิ่งผู้คุมเรียกและรับเงินจากพลทหารแก้ว 25 บาท” เป็นฟ้องเคลือบคลุมหรือไม่
ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยศาลอาญากลางที่วินิจฉัยว่า ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะโจทก์กล่าวฟ้องบอกเวลาตามที่สามารถจะบอกให้จำเลยเข้าใจได้ดีแล้ว ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงแล้วพิพากษายืน