คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1431/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จะให้ฟังว่า จำเลยกระทำผิดฐานสมรู้ จะต้องได้ความว่าจำเลยได้กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดในเวลาแต่ก่อนหรือเมื่อขณะความผิดนั้นได้เกิดขึ้น อันเป็นอุปการะแก่การกระทำผิดนั้น
การที่คนหนึ่งทำร้ายผู้ตายซึ่งเป็นกรรมกรสามล้อถึงตายโดยจำเลยไม่ได้สมคบด้วย เป็นการกระทำของคนนั้นโดยพลการ จำเลยเป็นแต่เข้าช่วยคนนั้นชกต่อยพวกสามล้ออื่นซึ่งเกิดวิวาทกันในตอนแรกเท่านั้น และการที่จำเลยร้องห้ามไม่ให้ใครเข้ามาเพื่อขู่ไม่ให้ใครเข้ามาทำร้ายคนนั้นหรือเข้ามาทำร้ายจำเลยเอง และทั้งขณะที่จำเลยร้องห้าม ก็ไม่ได้ความว่าจำเลยได้ทราบถึงการที่คนอื่นนั้นทำร้ายผู้ตายแล้วหรือไม่ ดังนี้การกระทำของจำเลยไม่เป็นการอุปการะแก่การกระทำผิด อันจะเป็นผิดฐานสมรู้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกับนายประกิตฆ่านายทองใบ โดยนายประกิตซึ่งยังจับตัวไม่ได้ ใช้เสียมตีนายทองใบกรรมกรสามล้อตายจำเลยทั้งสองได้เที่ยวคอยชกต่อยกรรมกรสามล้ออื่น ๆ ไม่ให้เข้ามาช่วยเหลือนายทองใบที่ถูกตีได้ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 249, 63

จำเลยทั้งสองปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นเห็นว่าการกระทำของจำเลยต้องด้วยลักษณะสมรู้ตามมาตรา 65 แม้โจทก์ฟ้องฐานเป็นตัวการ ก็ลงโทษฐานสมรู้ได้ พิพากษาว่าจำเลยทั้งสองผิดมาตรา 249, 65 ให้จำคุกคนละ 10 ปี

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการที่นายประกิตตีนายทองใบ เป็นการกระทำของนายประกิตโดยพลการ จำเลยมิได้มีส่วนแต่ประการใด การที่จำเลยร้องห้ามไม่ให้ใครเข้ามา เป็นการร้องประกาศไม่ให้ใครเข้าไปชกต่อยนายประกิตมากกว่า จำเลยไม่มีผิดตามฟ้อง พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามศาลชั้นต้น

ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จะให้ฟังว่า จำเลยทำผิดฐานสมรู้ในกรณีนี้จะต้องได้ความว่า จำเลยได้กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดในเวลาแต่ก่อนหรือเมื่อขณะความผิดนั้น คดีนี้จำเลยเป็นแต่เข้าช่วยนายประกิตชกต่อยพวกกรรมกรสามล้อซึ่งเกิดวิวาทกันในตอนแรกเท่านั้นการที่จำเลยร้องห้ามไม่ให้ใครเข้ามา น่าเชื่อว่าร้องเพื่อขู่ไม่ให้ใครเข้ามาทำร้ายนายประกิตหรือที่จะเข้ามาทำร้ายจำเลยมากกว่า ขณะจำเลยร้องห้าม ก็ไม่ได้ความชัดว่าจำเลยได้ทราบถึงการที่นายประกิตทำร้ายนายทองใบแล้วหรือไม่ คดีฟังไม่ได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการอุปการะแก่การกระทำผิดอันจะเป็นผิดฐานสมรู้

พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share