คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5024/2540

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกู้ยืมเงินจากโจทก์ จำเลยได้รับเงินจากโจทก์ครบถ้วนแล้ว จำเลยให้การว่าจำเลยไม่เคยทำสัญญากู้ยืมเงินจากโจทก์ สัญญากู้ยืมเงิน เป็นเอกสารปลอมโดยโจทก์กรอกข้อความลงในเอกสารว่าจำเลยกู้ยืมเงินโจทก์ ทั้งที่ไม่เป็นความจริง คำให้การของจำเลยเป็นการปฏิเสธว่าจำเลยไม่ได้ทำสัญญากู้ยืมเงินจากโจทก์ตามฟ้อง โจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายกล่าวอ้างจึงมีภาระการพิสูจน์ให้ได้ความว่าจำเลยได้ทำสัญญากู้ยืมเงินจากโจทก์ตามข้ออ้างของตน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2534 จำเลยกู้ยืมเงินโจทก์ 430,000 บาท จำเลยได้รับเงินจากโจทก์ครบถ้วนแล้วในวันทำสัญญาตกลงดอกเบี้ยอัตราชั่งละ 1 บาทต่อเดือน ชำระดอกเบี้ยภายในวันที่ 15ของทุกเดือน กำหนดชำระเงินต้นคืนวันที่ 15 พฤศจิกายน 2537 นับแต่วันทำสัญญาจำเลยไม่เคยนำดอกเบี้ยมาชำระให้โจทก์ และเมื่อครบกำหนดชำระเงินต้นคืนจำเลยก็ไม่ได้ชำระเงินต้นให้โจทก์ นับแต่วันทำสัญญาถึงวันฟ้องเป็นเวลา 3 ปีเศษ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 462,250 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราชั่งละ 1 บาท ต่อเดือน ในต้นเงิน 430,000 บาทนับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยทำสัญญากู้ยืมเงินโจทก์ สัญญากู้ยืมเงินเป็นเอกสารปลอม โดยโจทก์กรอกข้อความลงในเอกสารว่าจำเลยกู้ยืมเงินโจทก์ทั้งที่ไม่เป็นความจริง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาที่จะวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์มีว่าจำเลยทำหนังสือสัญญากู้ยืมเงินโจทก์ตามเอกสารหมาย จ.1 และจำเลยได้รับเงินไปจากโจทก์ตามฟ้องหรือไม่ ที่โจทก์ฎีกาว่า เมื่อจำเลยโต้เถียงว่าจำเลยไม่ได้กู้ยืมเงินจากโจทก์ จำเลยมีหน้าที่นำสืบว่าจำเลยไม่ได้รับเงินตามสัญญากู้ยืมเงินจากโจทก์นั้น เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกู้ยืมเงินจากโจทก์ 430,000 บาท จำเลยได้รับเงินจากโจทก์ครบถ้วนแล้ว จำเลยให้การว่าจำเลยไม่เคยทำสัญญากู้ยืมเงินจากโจทก์ สัญญากู้ยืนเงินเป็นเอกสารปลอมโดยโจทก์กรอกข้อความลงในเอกสารว่าจำเลยกู้ยืมเงินโจทก์ ทั้งที่ไม่เป็นความจริง คำให้การของจำเลยเป็นการปฏิเสธว่าจำเลยไม่ได้ทำสัญญากู้ยืมเงินจากโจทก์ตามฟ้อง โจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายกล่าวอ้างจึงมีภาระการพิสูจน์ให้ได้ความว่าจำเลยได้ทำสัญญากู้ยืมเงินจากโจทก์ตามข้ออ้างของตน ในการนำสืบของโจทก์พยานโจทก์เพียงปากเดียวพยานหลักฐานของจำเลยมีน้ำหนักกว่าพยานหลักฐานของโจทก์ คำเบิกความของโจทก์ที่ว่า โจทก์เบิกเงินจากธนาคารมาให้จำเลยกู้ยืมไม่น่าเชื่อ และมีผลทำให้คำเบิกความของโจทก์ที่ว่าจำเลยทำสัญญากู้ยืมเงินโจทก์ไม่น่าเชื่อด้วย
พิพากษายืน

Share