คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1423/2534

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยเคยฟ้องโจทก์เป็นคดีแพ่งและคดีอาญา โจทก์จำเลยตกลงถอนฟ้องคดีดังกล่าวภายใน 7 วัน เมื่อจำเลยผิดสัญญาไม่ยอมถอนฟ้องก็เป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาความไม่ใช่กรณีที่จะต้องใช้สิทธิทางศาล โจทก์ไม่อาจนำข้อตกลงตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวมาฟ้องบังคับได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเคยฟ้องโจทก์ฐานเบิกความเท็จตามคดีอาญาหมายเลขดำที่ 341/2528 หมายเลขแดงที่ 701/2529 ของศาลชั้นต้นต่อมาโจทก์จำเลยในคดีดังกล่าวตกลงถอนฟ้องคดีต่าง ๆ ทุกคดีภายใน7 วัน ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นตามเอกสารท้ายคำฟ้อง แต่จำเลยซึ่งเป็นโจทก์ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1427/2527และคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 1026/2528 ของศาลชั้นต้น ผิดสัญญาไม่ยอมถอนฟ้อง โจทก์เสียหาย ขอให้จำเลยถอนฟ้องคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 865/2527 หมายเลขแดงที่ 1026/2528 ระหว่างนางลุ้ยเหรียญเลิศรัตนา โจทก์ นางผาด แข่งขัน จำเลย และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1427/2527 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดราชบุรีโจทก์ นางลุ้ย เหรียญเลิศรัตนา โจทก์ร่วม นางผาด แข่งขัน กับพวกจำเลย
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษาให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ปัญหาว่าโจทก์จะฟ้องขอให้บังคับจำเลยถอนฟ้องคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 865/2527 หมายเลขแดงที่1026/2528 และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1427/2527 ของศาลชั้นต้นตามสัญญาประนีประนอมยอมความได้หรือไม่ เห็นว่า การที่จำเลยจะถอนฟ้องคดีดังกล่าวได้หรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาความ ไม่ใช่กรณีที่จะต้องใช้สิทธิทางศาล ดังนั้น ข้อตกลงตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวจึงไม่อาจนำมาฟ้องร้องบังคับได้…”
พิพากษายืน.

Share