แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำว่า ชื่อ ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1081,1082หมายถึง ชื่อตัว ชื่อรอง หรือชื่อสกุล อันเป็นชื่อเต็มของผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด มิใช่ส่วนหนึ่งส่วนใดของชื่อหรือเป็นเพียงพยางค์หนึ่งของชื่อ เว้นแต่เป็นที่รู้กันทั่วไปว่าชื่อบางส่วนหรือพยางค์หนึ่งของชื่อนั้นเป็นคำที่เรียกขานเป็นชื่อของผู้เป็นหุ้นส่วนดังกล่าว จำเลยที่ 4 เพียงแต่ยอมให้ห้างจำเลยที่ 1 ใช้คำว่า “วิ”ซึ่งเป็นพยางค์แรกของชื่อจำเลยที่ 4 ที่ชื่อว่า “วิริยะ”มาระคนเป็นชื่อ ทั้งไม่ปรากฏข้อเท็จจริงชัดแจ้งว่า คำว่า”วิ” นั้น เป็นที่รู้กันทั่วไปหมายถึงชื่อของจำเลยที่ 4 การกระทำของจำเลยที่ 4 ดังกล่าวจึงยังไม่ต้องด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1081 และมาตรา 1082 วรรคแรกจำเลยที่ 4 จึงไม่ต้องร่วมกับจำเลยอื่นรับผิดต่อโจทก์เพราะเหตุที่ได้ยอมให้ใช้คำว่า “วิ” มาระคนเป็นชื่อห้างจำเลยที่ 1 แต่อย่างใด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัด มีจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการและเป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิด จำเลยที่ 3 และที่ 4 เป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิด แต่ได้ยินยอมโดยแสดงออกชัดหรือโดยปริยายให้ใช้ชื่อของตนระคนเป็นชื่อห้างจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 3 และที่ 4 จึงต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 เสมือนเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดด้วย เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2525 จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3เปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันไว้กับโจทก์สาขากาญจนบุรี โดยตกลงใช้เช็คของโจทก์เป็นหลักฐานแห่งการเบิกเงินและคิดบัญชีเดินสะพัดต่อกันหลังเปิดบัญชีแล้วจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ได้นำเงินเข้าบัญชีและสั่งจ่ายเช็คถอนเงินไปจากบัญชีหลายครั้ง ต่อมาโจทก์ไม่ประสงค์จะเดินบัญชีกับจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ต่อไป จึงได้ตัดทอนบัญชีครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2529 ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ค้างชำระหนี้โจทก์เป็นเงิน 369,977.27 บาท โจทก์มีหนังสือทวงถามจำเลยทั้งสี่แล้วแต่ยังไม่ได้รับชำระหนี้ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสี่ให้ร่วมกันชำระเงินจำนวน 411,029.54 บาทแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 4 ให้การว่า จำเลยที่ 4 เป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิด มิได้แสดงออกชัดหรือโดยปริยายให้ใช้ชื่อของจำเลยที่ 4 ระคนเป็นชื่อห้างจำเลยที่ 1 ชื่อของห้างจำเลยที่ 1 ไม่มีส่วนคล้ายคลึงหรือพ้องกับชื่อของจำเลยที่ 4 จำเลยที่ 4 ไม่ต้องรับผิดในการเบิกเงินเกินบัญชี หนี้ที่เกิดขึ้นตามบัญชีไม่ใช่หนี้ของจำเลยที่ 1 ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระเงิน 411,029.54บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยที่ 4 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 4 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ยุติในเบื้องต้นว่าจำเลยที่ 4 เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดในห้างจำเลยที่ 1จำเลยที่ 1 เป็นหนี้ค่าเบิกเงินเกินบัญชีจากโจทก์คิดถึงวันฟ้องเป็นเงิน 411,029.54 บาท คดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยที่ 4 จะต้องร่วมกับจำเลยอื่นรับผิดต่อโจทก์ตามฟ้องหรือไม่ ปัญหาข้อนี้ โจทก์ฎีกาว่า จำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด ยินยอมโดยแสดงชัดหรือโดยปริยายให้ใช้ชื่อคำว่า”วิ” ซึ่งเป็นพยางค์แรกของชื่อจำเลยที่ 4 มาเรียกขานระคนเป็นชื่อห้างจำเลยที่ 1 ด้วย เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด “วิฑูรย์ทัศน์”ซัพพลาย” จำเลยที่ 4 จึงต้องรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเสมือนดั่งว่าเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1082 และจำเลยที่ 4 ได้สอดเข้าเกี่ยวข้องจัดการงานของห้างจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 4 จึงต้องรับผิดต่อโจทก์โดยไม่จำกัดจำนวน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1088 เห็นว่า ตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1081 และมาตรา 1082 วรรคแรก บัญญัติห้ามมิให้เอาชื่อของผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดมาเรียกขานระคนเป็นชื่อห้างและหากหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดคนใดยินยอมโดยแสดงออกชัดหรือโดยปริยายให้ใช้ชื่อของตนระคนเป็นชื่อห้าง ผู้เป็นหุ้นส่วนคนนั้นจะต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกเสมือนดั่งว่าเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดนั้น คำว่าชื่อในบทบัญญัติดังกล่าวหมายถึงชื่อตัว ชื่อรอง หรือชื่อสกุล อันเป็นชื่อเต็มของผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด มิใช่ส่วนหนึ่งส่วนใดของชื่อหรือเป็นเพียงพยางค์หนึ่งของชื่อ เว้นแต่เป็นที่รู้กันทั่วไปว่าชื่อบางส่วนหรือพยางค์หนึ่งของชื่อนั้นเป็นคำที่เรียกขานเป็นชื่อของผู้เป็นหุ้นส่วนดังกล่าว สำหรับคดีเรื่องนี้ จำเลยที่ 4 เพียงแต่ยอมให้ห้างจำเลยที่ 1 ใช้คำว่า “วิ” ซึ่งเป็นพยางค์แรกของชื่อจำเลยที่ 4ที่ชื่อว่า “วิริยะ” มาระคนเป็นชื่อ ทั้งไม่ปรากฏข้อเท็จจริงชัดแจ้งว่า คำว่า “วิ” นั้น เป็นที่รู้กันทั่วไปหมายถึงชื่อของจำเลยที่ 4 การกระทำของจำเลยที่ 4 ดังกล่าวจึงยังไม่ต้องด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1081 และมาตรา 1082วรรคแรก จำเลยที่ 4 จึงไม่ต้องร่วมกับจำเลยอื่นรับผิดต่อโจทก์ตามฟ้องเพราะเหตุที่ได้ยอมให้ใช้คำว่า “วิ” มาระคนเป็นชื่อห้างจำเลยที่ 1 แต่อย่างใด
พิพากษายืน