แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องไม่ได้บรรยายข้อเท็จจริงตามพระราชบัญญัติป่าไม้ ฯ มาตรา 38 ข้อ 1 หรือข้อ 2 ที่ว่า นำไม้หรือของป่าที่ทำออกตามใบอนุญาตไปถึงที่อันระบุไว้ในใบอนุญาตแล้ว หรือ…. ฯลฯ ซึ่งขาดองค์ความผิด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5) ลงโทษฐานนำของป่าเคลื่อนที่โดยไม่มีใบเบิกทางตามมาตรา 39,71 ไม่ได้(อ้างนัยฎีกาที่ 341/2498)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยนำน้ำมันยาง ๒ ปีบ จำนวน ๔๐ ลิตร ถ่านไม้ ๒๐ ปีบ (.๖๐ ลูกบาศก์เมตร) อันเป็นของป่าหวงห้ามตามกฎหมาย จากบ้านลานดอกไม้ ตำบลลานดอกไม้ อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร เคลื่อนที่มายังประตูน้ำชัณสูตร ตำบลโพธิ์ชนไก่ อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี โดยใช้เรือลำเลียงบรรทุกเคลื่อนที่ไป โดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีใบเบิกทางของเจ้าพนักงานกำกับตามกฎหมาย กับมีไม้สักแปรรูป ๑๔ แผ่น .๒๖ ลูกบาศก์เมตร ในความครอบครองโดยไม่รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๓๙,๔๘,๗๑,๗๒,๗๔ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๓ มาตรา ๑๓,๑๗,๑๘ พระราชกฤษฎีกากำหนดของป่าหวงห้ามพ.ศ. ๒๕๐๕ มาตรา ๔ ฯลฯ
จำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดีว่าไม่มีเจตนากระทำผิด
ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกับสำนวนที่มีจำเลยอื่นถูกฟ้องข้อหามีไม้แปรรูปจำเลยผิดฐานมีไม้แปรรูป ตามมาตรา ๗๓ ลด. ๑ ใน ๓ จำคุกคนละ ๔ เดือน ปรับคนละ ๑,๔๐๐ บาท โทษจำคุก รอ ๒ ปี ให้ยกฟ้องข้อหานำน้ำมันยางและถ่านเคลื่อนที่ เพราะฟ้องไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๕๘(๕) ของกลางคืนจำเลย
โจทก์อุทธรณ์เฉพาะข้อหานำของป่าเคลื่อนที่
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามคำบรรยายฟ้อง โจทก์ไม่ได้บรรยายข้อเท็จจริงตามข้อ ๑ หรือข้อ ๒ ของพระราชบัญญัติป่าไม้ ฯ มาตรา ๓๘ เลย กล่าวคือ ถ้าเป็นการนำไม้หรือของป่าที่ทำออกตามใบอนุญาต เมื่อยังไปไม่ถึงที่อันระบุไว้ในใบอนุญาต ก็ยังไม่ต้องมีใบเบิกทาง หรือถ้าการนำไม้ที่ออกโดยไม่ต้องรับอนุญาต เมื่อนำไปไม่ถึงด่านป่าไม้แรก ก็ยังไม่จำต้องมีใบเบิกทางตามมาตรา ๓๙ บทบัญญัติมาตรา ๓๘ ในส่วนนี้ให้ใช้บังคับถึงการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ต่อไปภายหลังเมื่อโจทก์ไม่บรรยายข้อเท็จจริงตามมาตรา ๓๘ คดีของโจทก์จึงขาดองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘(๕) ฎีกาที่ ๗๕๙/๒๕๐๓ ไม่ตรงกับคดีนี้ ฉะนั้น แม้จำเลยรับสารภาพก็ไม่มีทางลงโทษจำเลยตามฟ้องได้ อ้างนัยฎีกาที่ ๓๔๑/๒๔๙๘
พิพากษายืน