คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 142/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กำหนดหนึ่งปีในการฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองนั้นเป็นอายุความ ฉะนั้นเมื่อโจทก์ฟ้องคดีอาญาฐานบุกรุกไว้แล้ว แต่คดียังไม่ถึงที่สุดต่อมาโจทก์จึงได้ฟ้องคดีแพ่งอีกคดีหนึ่งเมื่อเกินหนึ่งปีนับจากวันบุกรุกคดีโจทก์หาขาดอายุความไม่เพราะอายุความได้สะดุดหยุดลงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 51 วรรคสองแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2493 จำเลยสมคบกันบุกรุกที่นาโจทก์ โจทก์ได้มาร้องทุกข์พนักงานอัยการฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญา ศาลจังหวัดสงขลาสั่งให้รอคดีอาญาไว้ ให้โจทก์ดำเนินคดีแพ่งก่อนเพื่อจะได้ถือข้อเท็จจริงทางแพ่งไปวินิจฉัยคดีอาญา โจทก์จึงฟ้องคดีนี้ขอให้ห้ามจำเลยมิให้เกี่ยวข้องและเรียกค่าเสียหาย

จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยที่ 1 จับจองแล้วครอบครองเป็นเจ้าของมา 5 ปี โจทก์ไม่มีอำนาจนำคดีมาฟ้องตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1375

ศาลชั้นต้นว่าคดีขาดอายุความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่าอายุความสะดุดหยุดลงแล้วตั้งแต่เมื่อจำเลยถูกฟ้องคดีอาญา พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ดำเนินการพิจารณาต่อไป

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 51 วรรค 2 นั้นอายุความที่จะฟ้องคดีแพ่งย่อมสะดุดหยุดลงเมื่อได้ฟ้องคดีอาญาแล้ว คดีโจทก์ หาขาดอายุความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 ไม่ จึงพิพากษายืน

Share