คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 142/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทำสัญญากู้เงินมอบที่นาให้ทำกินต่างดอกเบี้ย กำหนดไถ่ถอนภายใน 1 ปี เมื่อพ้นกำหนดแล้วไม่ไถ่ ดังนี้ ในข้อวินิจฉัยที่ว่า จะเป็นการแสดงเจตนาสละสิทธิครอบครองหรือเป็นเรื่องระยะเวลาชำระหนี้นั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวแก่การวินิจฉัยหรือตีความตามข้อตกลงแห่งสัญญา ซึ่งศาลฎีกาเห็นว่าข้อตกลงเพียงเท่านี้ยังแปลไม่ได้ว่าเป็นการแสดงเจตนาสละสิทธิครอบครอง แปลได้เพียงว่า เป็นกำหนดระยะเวลาชำระหนี้หรือกำหนดเวลาการไถ่ถอน.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ทำหนังสือกู้เงินจำเลย และเอานาฟาง ๑ แปลงให้ยึดถือทำต่างดอกเบี้ย โจทก์ได้ขอชำระหนี้และขอนาคืน จำเลยไม่ยอม จึงขอให้ศาลบังคับ จำเลยให้การว่า โจทก์ได้ขายฝากนาผู้อื่นไว้แล้ว โจทก์ให้จำเลยไถ่ถอนที่นา โดยตกลงว่าโจทก์จะไถ่ถอนที่นาคืนจากจำเลยภายในกำหนด ๑ ปี โจทก์ไม่ไถ่ถอนภายในกำหนด เป็นการแสดงว่าโจทก์สละสิทธิ โจทก์แถลงว่าเดิมได้เอาเงินนายฝ้ายไปมอบที่นาให้ยึดถือ และทำกินต่างดอกเบี้ย ต่อมาได้กู้เงินจำเลย ๒๐๐ บาท มอบนาให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ย ไม่ได้กำหนดเวลาไถ่ถอน จำเลยแถลงว่าโจทก์กู้เงินจำเลยไปไถ่นาจากนายฝ้าย มอบนาให้ทำกินต่างดอกเบี้ย ไม่ไถ่ในกำหนด ๑ ปี ให้ที่นาเป็นสิทธิแก่จำเลย โจทก์ไม่ได้ขอไถ่ ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพะยาน แล้วพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน.
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาฉะเพาะปัญหาว่า สัญญากำหนดมาไถ่ ๑ ปีนั้น จะเป็นการแสดงเจตนาสละสิทธิ หรือเป็นเรื่องระยะเวลาชำระหนี้ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาเห็นว่าข้อตกลงที่ว่าจะไถ่ถอนภายใน ๑ ปี ถ้าพ้นกำหนดเวลา ๑ ปี จะถือว่า เป็นการแสดงเจตนาสละสิทธิครอบครองได้หรือไม่นั้น เป็นปัญหาเกี่ยวแก่การวินิจฉัยหรือตีความตามข้อตกลงแห่งสัญญา ซึ่งเห็นว่าข้อตกลงเพียงเท่านี้ ยังแปลความไม่ได้ว่าเป็นการแสดงเจตนาสละสิทธิการครอบครอง คงแปลได้เพียงว่า เป็นเรื่องกำหนดระยะเวลาชำระหนี้ หรือกำหนดเวลาไถ่ถอน
พิพากษายืน.

Share