คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411/2549

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ต้นฉบับสัญญาอยู่ในความครอบครองของโจทก์ เมื่อจำเลยทั้งสี่คัดค้านว่าไม่มีต้นฉบับ โจทก์จึงต้องนำต้นฉบับเอกสารมาแสดงต่อศาลในวันสืบพยานตาม ป.วิ.พ. มาตรา 122 และมาตรา 125 ประกอบ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ.2528 มาตรา 17 เมื่อโจทก์ไม่นำต้นฉบับเอกสารมาแสดง และมิใช่กรณีที่จะนำสำเนามาสืบแทนต้นฉบับได้ตามป.วิ.พ. มาตรา 93 ประกอบพ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ.2528 มาตรา 17 สำเนาสัญญาว่าจ้างดังกล่าวจึงรับฟังเป็นพยานไม่ได้
สัญญาจ้างทำของนั้น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มิได้บังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือมิฉะนั้นตกเป็นโมฆะ ฉะนั้น ศาลย่อมรับฟังพยานหลักฐานอื่นเพื่อวินิจฉัยว่า โจทก์ได้ว่าจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัด ป. ก่อสร้างอาคารจริงหรือไม่ นอกจากนี้ โจทก์มีสำเนาเอกสารซึ่งจำเลยทั้งสี่ไม่ได้คัดค้านว่า ไม่มีต้นฉบับเป็นพยาน เมื่อฟังได้เช่นนี้จึงมีเหตุเชื่อได้ว่า โจทก์ว่าจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัด ป. ก่อสร้างอาคารและจ่ายเงินค่าจ้างจริง ใบกำกับภาษีที่ออกโดยห้างหุ้นส่วนจำกัด ป. จึงเป็นใบกำกับภาษีที่ออกให้เนื่องจากการรับเงินค่าจ้าง เป็นใบกำกับภาษีที่โจทก์ผู้ได้รับประโยชน์สามารถพิสูจน์ได้ว่า บุคคลใดเป็นผู้ออกใบกำกับภาษี ใบกำกับภาษีดังกล่าวจึงมิใช่ใบกำกับภาษีปลอมตาม ป.รัษฎากร มาตรา 89 (7) วรรคสอง เมื่อขณะออกใบกำกับภาษีนั้น ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป. เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม โจทก์จึงมีสิทธินำภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีมาหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มตาม ป.รัษฎากร มาตรา 82/3 ที่ศาลภาษีอากรกลางให้นำภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีมาคำนวณหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยให้เพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์สำหรับใบกำกับภาษีดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้เพิกถอนการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินตามหนังสือแจ้งการประเมินภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.73.1) เลขที่ 1003140/5/102423 เลขที่ 1003140/5/102424 เลขที่ 1003140/5/102425 เลขที่ 1003140/5/102426 และเลขที่ 1003140/5/102427 และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ เลขที่ สภ.1 (อธ.1)/171/2543 และให้จำเลยที่ 1 คืนเงิน 2,207,553 บาท แก่โจทก์
จำเลยให้การและแก้ไขคำให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้เพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์เฉพาะใบกำกับภาษีตามเอกสารหมาย จ.3 แผ่นที่ 21 ถึง 34 ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ คำขออื่นให้ยก
จำเลยทั้งสี่อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า ปัญหาตามอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสี่มีว่า ที่ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้เพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์สำหรับใบกำกับภาษีตามเอกสารหมาย จ.3 แผ่นที่ 21 ถึง 34 นั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า สัญญาจ้างก่อสร้างอาคารระหว่างโจทก์กับห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.สุรางค์การโยธาตามเอกสารหมาย จ.3 แผ่นที่ 9 ถึง 11 เป็นสำเนาเอกสารที่ถ่ายจากต้นฉบับ ส่วนต้นฉบับไม่ได้ส่งศาล แสดงว่าต้นฉบับสัญญาอยู่ในความครอบครองของโจทก์ เมื่อจำเลยทั้งสี่คัดค้านว่าไม่มีต้นฉบับ โจทก์จึงต้องนำต้นฉบับเอกสารมาแสดงต่อศาลในวันสืบพยานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 122 และมาตรา 125 ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ.2528 มาตรา 17 เมื่อโจทก์ไม่นำต้นฉบับเอกสารมาแสดงและมิใช่กรณีที่จะนำสำเนามาสืบแทนต้นฉบับได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93 ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ.2528 มาตรา 17 สำเนาสัญญาว่าจ้างดังกล่าวจึงรับฟังเป็นพยานไม่ได้ อย่างไรก็ดีสัญญาจ้างทำของนั้นประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มิได้บังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือ มิฉะนั้นตกเป็นโมฆะ ฉะนั้น ศาลย่อมรับฟังพยานหลักฐานอื่นเพื่อวินิจฉัยว่าโจทก์ได้ว่าจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.สุรางค์การโยธาก่อสร้างอาคารจริงหรือไม่ นอกจากนี้โจทก์ยังมีสำเนาเอกสารซึ่งจำเลยทั้งสี่ไม่ได้คัดค้านว่าไม่มีต้นฉบับเป็นพยานดังนี้เมื่อพิจารณาประกอบกันแล้วฟังได้ว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.สุรางค์การโยธาได้ขอเบิกเงินค่าจ้างก่อสร้างอาคารตามงวดจากโจทก์ โจทก์อนุมัติและได้จ่ายเงินเป็นเช็คจำนวน 12 ฉบับ พร้อมหักภาษี ณ ที่จ่ายและนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายต่อจำเลยที่ 1 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.สุรางค์การโยธาได้ออกใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีให้แก่โจทก์ และเช็คทั้ง 12 ฉบับ เรียกเก็บเงินได้ เมื่อฟังได้เช่นนี้จึงมีเหตุเชื่อได้ว่าโจทก์ว่าจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.สุรางค์การโยธาก่อสร้างอาคารและจ่ายเงินค่าจ้างจริง ใบกำกับภาษีที่ออกโดยห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.สุรางค์การโยธาจึงเป็นใบกำกับภาษีที่ออกให้เนื่องจากการรับเงินค่าจ้างเป็นใบกำกับภาษีที่โจทก์ผู้ได้รับประโยชน์สามารถพิสูจน์ได้ว่าบุคคลใดเป็นผู้ออกใบกำกับภาษี ใบกำกับภาษีดังกล่าวจึงมิใช่ใบกำกับภาษีปลอมตามประมวลรัษฎากร มาตรา 89 (7) วรรคสอง เมื่อขณะออกใบกำกับภาษีนั้นห้างหุ้นส่วนจำกัด ป. สุรางค์การโยธาเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม โจทก์จึงมีสิทธินำภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีมาหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากร มาตรา 82/3 ที่ศาลภาษีอากรกลางให้นำภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีเอกสารหมาย จ.3 แผ่นที่ 21 ถึง 34 มาคำนวณหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มโดยให้เพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์สำหรับใบกำกับภาษีดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายแล้ว อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสี่ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ.

Share