แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ประกอบธุระกิจเดินรถโดยสารรับรถของผู้อื่นเข้ามาเดินในทาง โดยได้รับแบ่งผลประโยชน์ รถที่เดินมีชื่อของตน รวมทั้งจัดบริการและขายตั๋วให้ด้วยนั้น ถือว่าเป็นรถอยู่ในความควบคุมและรับส่งคนโดยสารในปกติธุระของผู้นั้นโดยตรงตามกฎหมายลักษณะรับขน ฉะนั้น เมื่อคนขับรถประมาททำให้ผู้โดยสารตาย ตนจึงต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายด้วย
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่านายสุวัฒน์ พูลลาภ สามีและบิดาโจทก์ได้โดยสารรถยนต์ของบริษัทจำเลยที่ ๒ โดยจำเลยที่ ๑ เป็นผู้ขับและได้ขับโดยประมาทเป็นเหตุให้รถคว่ำทำให้นายสุวัฒน์ตาย จึงขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายสำหรับการตายของนายสุวัฒน์ เป็นเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท
จำเลยทั้ง ๕ ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม ๓๖,๖๕๐ บาท ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ ๒, ๓, ๔ และ ๕
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คำบรรยายฟ้องของโจทก์ชัดเจนและเข้าใจได้ว่าโจทก์ขอให้จำเลยทั้ง ๕ ร่วมรับผิดในการตายของนายสุวัฒน์ อันเกิดจากการประมาทของจำเลยที่ ๑ ผู้ขับรถรับส่งคนโดยสารซึ่งนายส่างนำเข้ามาเดินแบ่งประโยชน์กับจำเลยที่ ๒ ในบริการเดินรถของจำเลยที่ ๒ คำฟ้องมีความหมายเป็นข้อสำคัญว่า จำเลยทั้ง ๕ ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายให้ ทั้งนี้เพราะคำบรรยายตอนต้นชัดเจนเข้าใจเรื่องดีแล้ว ศาลฎีกาจึงเห็นว่า แม้โจทก์จะไม่ได้ฟ้องระบุชัดเจนให้จำเลยต้องรับผิดฐานใด แต่เมื่อข้อเท็จจริงปรากฎว่า บริษัทจำเลยที่ ๒ ประกอบธุระกิจเดินรถโดยสาร รับรถผู้อื่นเข้าเดินในทางบริษัทโดยรับแบ่งผลประโยชน์ รถที่เดินเขียนชื่อบริษัทข้างรถ ๒ ข้างสถานีจอดรถเป็นของบริษัทและขายตั๋วในนามบริษัท ฉะนั้น บริษัทจำเลยจึงเป็นบริษัทที่กระทำกิจการรับขนคนโดยสารตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๐๘ ซึ่งต้องรับผิดต่อความเสียหายใด ๆ อันเกิดแต่ผู้โดยสาร เว้นแต่จะเป็นเหตุสุดวิสัยหรือเป็นความผิดของผู้โดยสารเองตามมาตรา ๖๓๔
รถยนต์คันเกิดเหตุ แม้จะเป็นรถของนายส่าง แต่เมื่อบริษัทรับเอาเข้าเดินในนามบริษัทตลอดจนบริษัทจัดการขายตั๋ว เช่นนี้ จึงถือได้ว่าเป็นรถอยู่ในความควบคุมของบริษัทและรับส่งคนโดยสารในปกติธุรกิจของบริษัทโดยตรง จำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นคนขับประจำรถ ได้ขับโดยประมาททำให้คนโดยสารตาย จำเลยที่ ๒ จึงต้องรับผิดที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ ๒ นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษาแก้ ให้จำเลยที่ ๒ รับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ตามจำนวนในคำพิพากษาศาลชั้นต้นด้วย