คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1403/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พวกของจำเลยคนหนึ่งกำลังข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย ส่วนจำเลยถอดกางเกงขายาว เสื้อ และหมวกวางไว้ คงนุ่งแต่กางเกงในตัวเดียวนั่งคอยข่มขืนกระทำชำเราอยู่ข้างผู้เสียหายพร้อมที่จะเข้ากระทำการข่มขืนเป็นคนต่อไป แม้จำเลยจะยังไม่ทันลงมือข่มขืนก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๙ เวลากลางคืน จำเลยกับพวกอีก ๕ คนที่ไม่ได้ตัวมาฟ้องบังอาจใช้กำลังกายประทุษร้ายข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงกุหลาบ อายุ ๑๔ ปี ซึ่งไม่ใช่ภริยาของจำเลยกับพวก จำเลยที่ ๑ กับพวกหลบหนีอีกคนหนึ่งได้กระทำชำเราเด็กหญิงกุหลาบจนสำเร็จความใคร่ไปคนละ ๑ ครั้ง ส่วนจำเลยที่ ๒ กับพวกที่หลบหนีรวมทั้งจำเลยที่ ๑ ขณะไม่ได้ทำชำเราได้ร่วมกันจับตัว จับแขน และใช้มือปิดตาเด็กหญิงกุหลาบไว้ อันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖, ๒๗๘, ๘๓
จำเลยที่ ๑ ให้การรับสารภาพ ส่วนจำเลยที่ ๒ ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า จำเลยทั้งสองได้ร่วมกับพวกกระทำความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา อันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖ วรรค ๒, ๘๓ จำคุกคนละ ๑๘ ปี ลดโทษให้จำเลยที่ ๑ กึ่ง ฐานรับสารภาพ คงจำคุกจำเลย ๑ เก้าปี
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยที่ ๒ ได้เข้าไปยังที่เกิดเหตุโดยมีความประสงค์จะข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายเช่นกัน จึงได้ถอดกางเกง เสื้อ และหมวก ยืนรออยู่ใกล้ ๆ เป็นการเตรียมการที่จะกระทำความผิด แต่จำเลยที่ ๒ ยังไม่ได้ถูกต้องตัวผู้เสียหายหรือลงมือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง ในการที่จะข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย หรือมีส่วนช่วยเหลือให้ผู้อื่นกระทำการข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย เห็นว่าจำเลยที่ ๒ ยังไม่มีความผิดดังฟ้อง พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ ๒
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ ๒ ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อที่จำเลยสืบว่า ขณะที่ตำรวจมาจับจำเลย จำเลยถอดเสื้อผ้าและหมวกออกไปถ่ายอุจจาระในดงกล้วยนั้นฟังไม่ได้ แต่ฟังได้ว่า จำเลยที่ ๒ ถอดกางเกงขายาว เสื้อ และหมวกวางไว้ คงนุ่งแต่กางเกงในตัวเดียวนั่งคอยข่มขืนกระทำชำเราอยู่ข้างผู้เสียหาย ในการร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงนั้น ก็จะต้องคอยก่อนหลังกันอยู่ ขณะเจ้าพนักงานตำรวจเข้าจับกุม จำเลยที่ ๑ ซึ่งได้ข่มขืนผู้เสียหายแล้ว กำลังยืนอยู่ข้างผู้เสียหายพูดขู่ไม่ให้ผู้เสียหายส่งเสียงร้อง และให้พวกของจำเลยซึ่งเป็นคนต่อไปข่มขืนผู้เสียหาย ส่วนจำเลยที่ ๒ ก็พร้อมที่จะเข้ากระทำการข่มขืนเป็นคนต่อไป แม้จำเลยที่ ๒ จะยังมิทันได้ลงมือข่มขืนก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ ๑ กับพวกด้วยแล้ว ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลนี้ไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น จำเลยที่ ๒ มีอายุเพียง ๑๘ ปี สามารถลดมาตราส่วนโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๖
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ ๒ มีคามผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖ วรรคสอง, ๘๓ เมื่อลดมาตราส่วนโทษให้หนึ่งในสามแล้ว คงจำคุกจำเลยที่ ๒ มีกำหนด ๑๒ ปี

Share