แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติโดยมิชอบ. หรือโดยทุจริตอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 นั้น.จะต้องเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติเฉพาะแต่ตามหน้าที่ของเจ้าพนักงานผู้นั้นโดยตรงตามที่ได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่นั้นๆ เท่านั้น. ถ้าการปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติที่ไม่เกี่ยวกับหน้าที่ของพนักงานผู้นั้นโดยตรงแล้ว. ก็ย่อมไม่เป็นความผิดตามมาตรานี้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 กับพวกได้บังอาจมีไม้หวงห้าม ไว้ในครอบครองจำเลยที่ 2 เป็นพนักงานป่าไม้มีหน้าที่รักษาและใช้ดวงตราประทับไม้ ได้บังอาจใช้ดวงตราตีประทับไม้ที่จำเลยที่ 1 กับพวกมีไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย เพื่อแสดงว่าไม้นั้นเป็นไม้นอกประเภทหวงห้ามอันเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตและบังอาจออกใบเบิกทางรับรองว่าไม้ที่จำเลยที่ 1 กับพวกมีไว้เป็นไม้นอกประเภทหวงห้ามโดยจำเลยมิได้มีอำนาจที่จะออกใบเบิกทางนั้นได้ ทั้งนี้โดยจำเลยที่ 1กับพวกได้บังอาจร่วมกันสนับสนุนในการที่จำเลยที่ 2 กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ดังกล่าว ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484มาตรา 7, 69, 74, 74 ทวิ. พระราชบัญญัติป่าไม้หวงห้าม พ.ศ. 2505มาตรา 4 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157, 160, 83, 86 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2502 มาตรา 13 กับขอให้ริบของกลางด้วย จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า นายล้วนจำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 7, 69, 74 พระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2503 มาตรา 5, 12 ให้ลงโทษจำคุก 9 เดือน จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาลดโทษให้หนึ่งในสามจำคุก 6 เดือน แต่จำเลยที่ 1 ต้องขังมาพอกับโทษแล้ว ให้ปล่อยตัวไป นายสมคิดจำเลยที่ 2 มีผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ให้จำคุก 2 ปี ริบรถสาลี่และไม้ของกลาง จำเลยที่ 2 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยที่ 2 เป็นพนักงานป่าไม้อำเภอปราณบุรี ไม่มีอำนาจที่จะออกใบเบิกทางได้ อำนาจออกใบเบิกทางตามกฎหมายเป็นอำนาจของนายอำเภอประจำอำเภอนั้น ๆ จำเลยที่ 2 ไม่มีหน้าที่ออกใบเบิกทางแล้วออกใบเบิกทางให้ จึงไม่ถือว่าเป็นการกระทำตามหน้าที่ การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงไม่มีความผิดพิพากษาแก้เป็นให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2 นอกจากที่แก้นี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลฎีกาเห็นว่า มาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญาบัญญัติว่า”ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตต้องระวางโทษฯ” ตามตัวบทกฎหมายดังกล่าวนี้ได้บ่งความหมายไว้ชัดเจนแล้วว่า การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติโดยมิชอบหรือโดยทุจริตอันจะเป็นความผิดตามมาตรา 157 นั้น จะต้องเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติเฉพาะแต่ตามหน้าที่ของเจ้าพนักงานผู้นั้นโดยตรงตามที่ได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่นั้น ๆ เท่านั้น ถ้าการปฏิบัติหรือละเว้นที่ไม่เกี่ยวกับหน้าที่ของพนักงานผู้นั้นโดยตรงแล้วก็ย่อมไม่เป็นความผิดตามมาตรานี้ ข้อเท็จจริงในคดีนี้ได้ความยุติว่านายสมคิดจำเลยซึ่งเป็นพนักงานป่าไม้จัตวา อำเภอปราณบุรี ไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายหรือได้รับมอบอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายให้เป็นผู้ออกหรือลงชื่อในใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ได้แต่อย่างไรเลย หน้าที่ในการออกหรือลงชื่อในใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่นั้น เป็นของนายอำเภอเมืองปราณบุรีหรือนายสุทัศน์ประชิต พนักงานป่าไม้ตรีอำเภอเมืองปราณบุรี ซึ่งนายอำเภอเมืองปราณบุรีมอบหมายให้กระทำได้เป็นการเฉพาะตัวนายสุทัศน์ ประชิตเท่านั้น การที่นายสมคิดจำเลยได้ออกหรือลงชื่อในใบเบิกทางนำไม้และของป่ารายพิพาทเคลื่อนที่ให้นายจเร อินทรสมบัติไปนั้นไม่ใช่การปฏิบัติในหน้าที่ของนายสมคิดจำเลย ฉะนั้น นายสมคิดจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157พิพากษายืน.